21.30 น.
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกในประเทศ ชั้น 4 บริเวณเคาน์เตอร์ สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ (OS) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระ และบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง
23.40 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงซาเกร็บ โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ (OS) โดยเที่ยวบินที่ OS026/OS681 (23.55-05.35/07.10-08.00) แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินเวียนนา ประเทศออสเตรียä บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน
10.45 น.
คณะเดินทางถึง สนามบินซาเกร็บ จากนั้นนำท่านผ่านพิธีการทางสนามบินและรับกระเป๋าสัมภาระ ไกด์ท้องถิ่น และคนขับรถผู้ชำนาญเส้นทาง นำท่านเดินทางสู่ กรุงซาเกร็บ (ZAGREB) เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ SAVA และไหล่เขา MEDVEDNICA เมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมากว่า 900 ปี ซึ่งนอกจากจะเป็นเมืองหลวงแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางการเมืองเศรษฐกิจ การค้าและการศึกษาอีกด้วย นำชมย่านเมืองเก่าของกรุงซาเกร็บซึ่งจัดแบ่งออกเป็น 2 เขตคือ LOWER & UPPER TOWN อย่างลงตัว ผ่านชม โรงละครแห่งชาติ ที่สร้างขึ้นในสไตล์นีโอ-บาร็อก มีลักษณะเป็นรูปตัว U และรายรอบไปด้วยสวนสาธารณะจนได้รับสมญานามว่า “THE GREEN HORSE SHOE” นำท่านเที่ยวชมบรรยากาศของตัวเมืองซาเกร็บจากจุดชมวิว จากนั้นชม วิหารเซนต์มาร์ก (ST.MARK’S CATHEDRAL) โดดเด่นด้วยหลังคากระเบื้องที่ปูเป็นรูปตราของกองทหารแห่งยุคกลาง เช่น ตราหมากรุกสีแดง-ขาว สื่อถึงโครเอเชีย ส่วนหัวลีโอพาร์ด 3 ตัว แทนแคว้นดัลเมเทีย แถบสีแดง, ฟ้าและขาว หมายถึงสโลเวเนีย และตราฝั่งขวามือคือตราของกองกำลังแห่งซาเกรบ รอบๆ จัตุรัสมีที่ ทำการรัฐบาล (SABOR) และ แกลเลอรี ที่บอกเล่าถึงความเป็นมาของคนชาติโครแอตที่แยกตัวเองจากยูโกสลาเวียในอดีต จากนั้นนำท่านเดินชม ตลาดกลางเมือง (DOLAC MARKET) ตลาดกลางแจ้งที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรป และยังมีสีสันสุดๆ ด้วยตลอดแนวถนนจะมีร้านอาหารคาเฟ่น่ารักๆ ใต้ร่มสีสดใส นำท่านเดินสู่ไปยัง เขตโลเวอร์ทาวน์ เข้าสู่ จัตุรัสกลางเมือง (BAN JELACIC SQUARE) ศูนย์กลางการค้าที่สำคัญในอดีต และที่ชุมนุมผู้คนหลากหลายวัย อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของสถานีรถราง, ห้างสรรพสินค้า และธนาคาร ฯลฯ ชม อนุสาวรีย์ BAN JOSIP JOLACIC ผู้ยิ่งใหญ่และเป็นผู้ซึ่งต่อสู้เพื่อความอิสระจากชาวฮังการีเมื่อปี ค.ศ. 1848 ถึงเวลานัดหมายนำท่านเข้าสู่ ย่าน KOPTOL SQUARE นำท่านเข้าชมและถ่ายรูปที่ระลึกที่ วิหารเซนต์สตีเฟ่น (ST. STEPHAN’S CATHEDRAL) วิหารที่สร้างขึ้นในยุคแรกๆ โดดเด่นกลางเมือง โดยมียอดของวิหารคู่ในสถาปัตยกรรมแบบโกธิก รอบๆ วิหารมีหอคอยทรงกลม 5 หลังที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานจากชาวเติร์กในศตวรรษที่ 16 และยังมี อนุสาวรีย์มาดอนน่า (MOTHER OF GOD) สีทองอร่ามตระหง่านอยู่ด้านหน้าวิหาร
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
ออกเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติพลิตวิทเซ่ (PLITVICE NATIONAL PARK) แห่งแคว้น ISTRIA & KVARNER ที่ตั้งอยู่ใจกลางของประเทศ เป็น 1 ในอุทยานแห่งชาติทั้งหมด 8 แห่งของโครเอเชียที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อปี ค.ศ. 1979 ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่กว่า 300 ตารางกิโลเมตร มีทะเลสาบถึง 16 แห่งที่ร้อยเป็นสายน้ำตกทั้งขนาดเล็ก, ขนาดใหญ่ ไหลรินสู่ กันและกัน มีพืชพันธุ์และสัตว์ป่านานาชนิด อย่างกวาง สุนัขจิ้งจอก หมูป่า นกพันธุ์หายาก โดยเฉพาะหมีสีน้ำตาล ซึ่งเป็นสัตว์ประจำถิ่นแห่งนี้
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน HOTEL JEZERO PLITVICKA JEZERA หรือเทียบเท่า ****
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่าน ล่องเรือชมความสวยงามของท้องน้ำสีคราม และเกาะแก่งต่างๆ ในทะเลสาบ ตลอดจนพันธุ์ไม้ป่านานาชนิด ฯลฯ นำท่านเข้าสู่ภายในอุทยานฯ จากนั้นเดินลัดเลาะชมธรรมชาติไปตามทางเรื่อยๆ จนกระทั่งถึง ทะเลสาบพลิตวิทเซ่ ที่มีน้ำใสแจ๋วจนสามารถมองเห็นฝูงปลาได้อย่างชัดเจน และบริเวณใกล้เคียงกันนั้นท่านสามารถชม น้ำตก SLAP WATERFALL น้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดใน อุทยานฯ ซึ่งมีความสูงถึง 78 เมตร ท่านสามารถสัมผัสละอองน้ำตกชุ่มฉ่ำได้อย่างใกล้ชิด
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
ออกเดินทางสู่ ซาดาร์ (ZADAR) เมืองท่าสำคัญซึ่งตั้งอยู่บนคาบสมุทรขนาดใหญ่ของทะเลอาเดรียติก อดีตเมืองหลวงของแคว้นดัลเมเทียที่ร่ำรวยไปด้วยอารยะธรรมโรมันที่มีประวัติศาสตร์มากว่า 3,000 ปีมาแล้ว นำท่านเที่ยวชมตัวเมืองซาดาร์ ชมประตูเมืองเก่าสมัยเวนิสมามีอิทธิพลเหนือซาดาร์ อันงดงามด้วยลวดลายและสัญลักษณ์ต่างๆ ชม โบสถ์เซนต์โดแนท (THE CHURCH OF ST.DONAT) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 ซึ่งถือว่าเป็นโบสถ์สไตล์ไบเซนไทน์ที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นดัล เมเชีย และถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซาดาร์ โบสถ์อนาตาเซีย (ZADAR CATHEDRAL OR ANASTASIA) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 ในรูปแบบไบเซนไทน์ ต่อมาสร้างเพิ่มเติมในศตวรรษที่ 12 และ 13 ในรูปแบบโรมาเนสก์และโกธิกที่งดงาม ชมฟอรั่มหรือย่านชุมชนของโรมันเมื่อสองพันปีก่อนที่นักโบราณคดีจะใช้ความอุตสาหะในการขุดค้นพบหลักฐานสำคัญต่างๆ ในการอยู่อาศัยของชาวโรมัน ชมตลาดกลางเมืองที่มีชีวิตชีวาสดใสด้วยผัก ผลไม้ ไม้ดอก และอื่นๆ อันแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นดิน ชม ซีออร์แกน (SEA ORGAN) นวัตกรรมใหม่ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดที่เมืองบาร์เซโลน่าเมื่อปี ค.ศ. 2005 โดยการใช้ท่อฝังลงไปริมฝั่งทะเล แล้วอาศัยคลื่นน้ำทะเลดันอากาศเข้าไปในท่อที่มีลิ้นแตกต่างกัน ทำให้เกิดโทนเสียงสูงต่ำ ออกจากท่อจำนวนมากเป็นที่น่าอัศจรรย์
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน HOTEL KOLOVARE หรือเทียบเท่า ****
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ออกเดินทางลัดเลาะเลียบทะเลอาเดรียติกสู่ ซิบีนิก (SIBENIK) เมืองเก่าที่ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวซิบีนิกริมฝั่งทะเลอาเดรียติกที่ได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมจากเวนิส นำท่านเที่ยวชมตัวเมืองเก่าที่หลังคา อาคารบ้านเรือนทำด้วยกระเบื้องสีแสดสไตล์เรอเนสซองส์ที่ได้รับอิทธิพลมาจากอิตาลี นำท่านชมป้อมปราการเมืองและวิหารเซนต์จาคอบ (เซนต์เจมส์) อันงดงามที่สร้างขึ้นมาราวคริสต์ศวรรษที่ 15 ในสมัยเรอเนสซองส์ในปี ค.ศ.1431 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบเวนิส-โกธิกผสมศิลปะทอสคาโน-เรอเนสซองส์ โดยศิลปินชาว อิตาเลียน สมควรแก่เวลานำเดินทางสู่ โทรเกียร์(TROGIR) เกาะเล็กๆ ที่เป็นศูนย์กลางอารยธรรมกรีกโบราณมาตั้งแต่ 380 ปีก่อนคริสตกาล ต่อมาถูกปกครองโดย TRAGURIUM และโรมันมีการอนุรักษ์ความเป็นเมืองเก่า ไม่ว่าจะเป็นจัตุรัสกำแพงเมือง และป้อมปราการไว้เป็นอย่างดีจนได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1997 นำท่านเดินชมภายในเขตเมืองเก่าซึ่งมีบรรยากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน บางครั้งเรียกกันว่า “แคลิฟอเนียร์แห่งโครเอเชีย” และยังเป็นเมืองที่รวบรวมสถาปัตยกรรมต่างยุคไว้มากที่สุดในยุโรปตะวันออก มีทั้งโรมาเนสก์, เรอเนสซองส์และบอร็อก ที่เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์กรีก-โรมันโบราณ เช่น ประตูเมือง (KOPNENA VRATA) ที่มีการบูรณะขึ้นใหม่ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 หอนาฬิกา (FOGGIA & CLOCK TOWER) สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 14 นำชม มหาวิหารเซนต์ลอว์เรนซ์ (CATHEDRAL OF ST.LAWRENCE) ที่สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 12 ในรูปแบบของศิลปะแบบโรมันเนสก์ โดยมีสิงโต, อดัม & อีฟ และรูปสลักนักบุญองค์สำคัญต่างๆ
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
ออกเดินทางสู่ สปลิต (SPLIT) เมืองใหญ่อันดับที่สองรองจากซาเกร็บ หากเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เมืองริมอาเดรียติกด้วยกัน สปลิตเมืองศูนย์กลางการพาณิชย์ และการคมนาคมของแคว้นดัลเม เชี่ยน โดยเป็นอีกเมืองหนึ่งที่องค์การยูเนสโกประกาศเป็นเมืองมรดกโลก นำท่านเที่ยวชมตัวเมืองสปลิตที่สร้างรายล้อมพระราชวังดิโอคลีเชียน ประกอบด้วยศาลาว่าการเมืองสไตล์เรอเนสซองส์ สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15 อาคารบ้านเรือนเก่าแก่ต่างๆ เข้าชม พระราชวังดิโอคลีเชียน (DIOCLE TIAN’S PALACE) สถานที่ประทับของจักรพรรดิไดโอคลิเชียนแห่งเวนิสของจักรวรรดิโรมัน ที่มีพระประสงค์ใช้เป็นที่ประทับในบั้นปลายของชีวิตในปี ค.ศ. 295 ภายในพระราชวังประกอบด้วยไปด้วยทางเข้าหลักหรือ GOLDEN GATE, มหาวิหารเทพเจ้าจูปิเตอร์, โบสถ์แห่งเทพวีนัส, วิหารโดมนิอุส ที่จัดเรียงรายรวมกันอย่างลงตัว ชมย่าน จัตุรัสประชาชน (PEOPLE’S SQUARE) ศูนย์กลางทางธุรกิจ และการบริหาร จากเมื่อสมัยศตวรรษที่ 15 และสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียง เช่น รูปภาพแกะสลักสมัย VENETIAN-GOTHIC CAMBI PALACE และ RENAISSANCE TOWN ที่สร้างขึ้นในช่วงแรกของศตวรรษที่ 15
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน HOTEL PRESIDENT SPLIT หรือเทียบเท่า ****
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ออกเดินทางลัดเลาะเลียบไปตามชายฝั่งทะเลอาเดรียติก ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศริมชายฝั่งทะเลที่มีบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีแสดสลับตามแนวชายฝั่งเป็นระยะๆ ผ่าน เมืองนีอุม (NEUM) เมืองในเขตประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีน่า เป็นเมืองชายทะเลเพียงเมืองเดียวของบอสเนียและเฮอร์เซโก วีน่า โดยมีความยาวของชายฝั่งประมาณ 24.5 กิโลเมตรเป็นทางออกสู่ทะเลอาเดรียติกทางเดียวของประเทศ เป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงเมืองหนึ่ง แวะบันทึก ภาพความงดงามของทะเลสาบ BACINSKA ที่สวยงามเกินคำบรรยาย จนถึง เมืองมาลีสตอน สถานที่ตั้งฟาร์มเลี้ยงหอยนางรม-หอยแมลงภู่ที่สำคัญริมทะเลอาเดรียติกเมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองดูบรอฟนิก เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของหอยนางรมและผลิตภัณฑ์จากหอยนางรมสดๆ จากทะเลอาเดรียติก หมู่บ้านที่สงบเงียบแห่งนี้ตั้งอยูริ่มฝั่งบริเวณโค้งอ่าวกว้าง เปรียบเสมือนเป็นด่านหน้าของเมืองดูบรอฟนิกในอดีตมีความเจริญรุ่งเรืองจากการค้าเกลือดังนั้นกำแพงป้องกันจึงมีความจำเป็นซึ่งสามารถมองเห็นกำแพงโบราณนี้ได้จากระยะไกลในปัจจุบัน สตอน ในอดีตเคยอยู่ใต้การปกครองของโรมันจนกระทั่งถูกทำลายโดยพวกมองโกล
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
ออกเดินทางสู่ ดูบรอฟนิก (DUBROVNIK) เมืองทางตอนใต้ของประเทศที่มีพรมแดนติดต่อกับ ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีน่า นำท่านเดินทางสู่สถานีเคเบิลคาร์เพื่อขึ้น กระเช้าไฟฟ้า สู่ ยอดเขา SRD ที่มีความสูง 400 เมตร เพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมืองหลังคาสีและความงดงามทะเลอาเดรียติก ยามสีน้ำเงินของทะเลอาเดรียติกตัดกับสีส้มแสดของกระเบื้องหลังคาเมืองเก่า สวยงามเกินจินตนาการมากว่าคำบรรยายใดๆ
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน HOTEL VALAMAR LACROMA DUBROVNIK หรือเทียบเท่า ****
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินเที่ยวชมบริเวณ เมืองเก่า (OLD TOWN) ซึ่งตั้งอยู่ในโอบล้อมกำแพงโบราณสูงตระหง่าน ตรงบริเวณพื้นที่ริมทะเลอาเดรียติก เป็นเขตชุมชนเริ่มแรกที่บรรพบุรุษชาวดูบรอฟนิกมาสร้างบ้านแปงเมืองไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 และสร้างกำแพงเมืองแข็งแรงขึ้นล้อมเมืองไว้ในศตวรรษที่ 13 เพื่อป้องกันภัยจากศัตรู เช่น พวกอาหรับ, เวเนเชียน, มาชีโดเนียนและเซิร์บ ภายในเขตเมืองเก่ามากมายด้วยสิ่งก่อสร้างโบราณ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ นำท่านเดินเที่ยวชมตัวเมืองโดยเริ่มต้นจาก ประตูหลัก (PILE GATE) สู่ STRADUM พื้นทางเดินเป็นหินอันเป็นถนนสายหลักจาก น้ำพุโบราณทรงกลม (ONFRIO FOUTAIN) ไปจนสุดมุมถนนล้วนเรียงรายไป ด้วยสถานที่สำคัญ อาทิเช่น FRANCISCAN MONASTERY วิหารในสถาปัตยกรรมโกธิก ภายในมีร้านขายยาที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรป ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1391 ชม สปอนซ่า พาเลซ (THE SPONZA PALACE) พระราชวังงดงามในสถาปัตยกรรมโกธิกผสมเรอเนซองส์ ซึ่งโดดเด่นด้านงานหินที่อ่อนช้อย เชื่อว่าในอดีตเป็นที่พบปะของพ่อค้าวานิชและสถานที่เก็บภาษีสินค้า ปัจจุบันเป็นสถานที่เก็บรักษาเอกสารความสัมพันธ์ทางการเมือง เศรษฐกิจของดูบรอฟนิกกับประเทศยุโรปต่างๆ ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 จากนั้นให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกบริเวณจัตุรัสกลางเมือง ซึ่งเป็นสถานที่นัดพบและประกอบกิจกรรมของชาวเมืองในอดีตรวมถึงสถานที่ลงโทษผู้กระทำผิดด้วย ถ่ายรูปที่ระลึกกับ เสาหินอัศวิน (ORLANDO COLUMN) หอนาฬิกา (BELL TOWER) ที่ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนสายหลัก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1444 หน้าปัดทำด้วยเหล็ก มีความพิเศษตรงลูกกลมๆ ใต้หน้าปัดซึ่งแทนพระจันทร์บอกข้างขึ้นข้างแรมในสมัยก่อนและรูปปั้นของ นักบุญ ST.BLAISE ซึ่งมีโบสถ์ประจำเมืองสไตล์โรมาเนสก์แห่งแรกของเมืองเป็นฉากหลัง และ โบสถ์ THE CATHEDRAL TREASURY สถานที่เก็บอัฐิของนักบุญ ST. BLAISE ภาพเขียน และชิ้นงานศิลปะรวมถึงวัตถุล้ำค่าจำนวนมากและยังมีส่วนผลิตเหรียญกษาปณ์และทองของชั่งที่มีชื่อเสียงของดูบรอฟนิกอีกด้วย นำท่านเข้าชม เรคเตอร์ พาเลซ (RECTOR’S PALACE) สร้างขึ้นในสถาปัตยกรรมโกธิกผสมเรอเนสซองส์ อดีตเคยเป็นที่ทำการรัฐบาล ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมสมบัติล้ำค่าไว้มากมาย
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่บริเวณ เมืองเก่าดูบรอฟนิก อีกครั้งหนึ่ง จากนั้นอิสระให้ท่านได้ขึ้นสู่ กำแพงเมือง (CITY WALK) ที่เ ริ่มสร้างในศตวรรษที่ 13 มีกำแพงยาวประมาณ 1,940 เมตร สูง 25 เมตร สลับด้วยหอรบ 5 หอ หอคอยทรงกลม 3 หอ และทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส และสี่เหลี่ยมผืนผ้า 12 หอ สร้างขึ้น ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่13ได้ชื่อว่ามีความมั่นคงและแข็งแกร่งที่สุดในน่านน้ำนี้ในช่วงที่มีการขยายอำนาจของอาณาจักรออตโตมัน กำแพงเมืองที่มีความหนา 3 เมตร ได้รับการเสริมเพิ่มเติมเป็น 6 เมตร แต่ดูบรอฟนิคต้องประสบกับภัยทางธรรมชาติได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1667 มีคนเสียชีวิตกว่า 5,000 คน ทำให้ตัวเมืองเสียหายมากแต่ทว่ากำแพงยังคงอยู่และประสบภัยอีกครั้งจากสงครามถูกถล่มโดยจรวดของกองทัพยูโกสลาเวียในปี ค.ศ. 1991 แต่ความเสียหายในส่วนนี้ได้รับเงินทุนสนับสนุนในการซ่อมแซมจากองค์การยูเนสโกท่านจะประทับใจกับวิวทิวทัศน์ขณะที่เดินไปตามสันแนวของกำแพงซึ่งมีทั้งอาคารสถาปัตยกรรมโบราณสไตล์บาร็อกในย่านเมืองเก่า และท้องทะเลสีครามที่สามารถมองออกไปไกลสุดสายตาภายใต้ท้องฟ้าแสนสดใส บางช่วงตอนของกำแพงจะต้องผ่านป้อมปราการที่ใหญ่มหึมา และหาดที่เต็มไปด้วยหินผาทำให้ตลอดระยะเวลาในการเดินบนกำแพงเมืองโบราณนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเชื่อ สร้างความประทับใจมิรู้เลือน
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน HOTEL VALAMAR LACROMA DUBROVNIK หรือเทียบเท่า ****
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ออกเดินทางสู่ KONZUM SUPER MARKET เพื่อให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากจากประเทศโครเอเชีย ภายในซุปเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นที่มีสินค้าหลากหลายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “KRAS” ช็อกโกแลตท้องถิ่น ยี่ห้อที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปตะวันออก, ไวน์โลกเก่าท้องถิ่น DINGAC, POSTUP จากองุ่นพันธุ์ท้องถิ่น PLAVAC MALI คุณภาพระดับเดียวกับไวน์ฝรั่งเศสหรืออิตาเลี่ยน และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย อิสระให้ท่านได้เลือกชื่นชมและช้อปปิ้งตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินดูบรอฟนิก เตรียมเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
13.00 น.
คณะทัวร์อำลา ดูบรอฟนิก เดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ (OS) เที่ยวบิน OS732/OS025 (15.25-16.50/23.20-14.20) แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินเวียนนา ประเทศออสเตรีย
บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน
14.50 น.
คณะเดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ … พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม