ทัวร์แกรนด์โครเอเชีย 8 วัน 5 คืน OS

0
Price
Price
ชื่อ-นามสกุล*
อีเมล*
เบอร์โทรติดต่อ*
จำนวนผู้เดินทาง*
* I agree with Terms of Service and Privacy Statement.
Please agree to all the terms and conditions before proceeding to the next step
บันทึกโปรแกรมทัวร์

Adding item to wishlist requires an account

2528
Tour Details
  • โรงแรมระดับมาตรฐานสากลระดับ 4 ดาว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
  • รถโค้ชปรับอากาศมาตรฐาน พร้อมคนขับที่ชำนาญเส้นทาง
  • รายการทัวร์จัดให้แบบสบายๆ ค่อยๆ ไปทีละเมือง…ไม่เร่งรีบ
  • หัวหน้าทัวร์ที่มีประสบการณ์ มีความรับผิดชอบสูง ให้บริการ และอำนวยความสะดวกอย่างใกล้ชิด

Itinerary

วันที่ 1กรุงเทพฯ - เวียนนา

21.30 น.         

คณะพร้อมกัน สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกในประเทศ ชั้น 4 บริเวณเคาน์เตอร์ สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ (OS) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระ และบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง

23.40 น.       

ออกเดินทางสู่ กรุงซาเกร็บ โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ (OS) โดยเที่ยวบินที่ OS026/OS681 (23.55-05.35/07.10-08.00) แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินเวียนนา ประเทศออสเตรียä บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน

วันที่ 2เวียนนา - ซาเกร็บ - ชมเมือง - อุทยานแห่งชาติพลิตวิทเซ่

10.45 น.       

คณะเดินทางถึง สนามบินซาเกร็บ จากนั้นนำท่านผ่านพิธีการทางสนามบินและรับกระเป๋าสัมภาระ ไกด์ท้องถิ่น และคนขับรถผู้ชำนาญเส้นทาง นำท่านเดินทางสู่ กรุงซาเกร็บ (ZAGREB) เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ SAVA และไหล่เขา MEDVEDNICA เมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมากว่า 900 ปี ซึ่งนอกจากจะเป็นเมืองหลวงแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางการเมืองเศรษฐกิจ การค้าและการศึกษาอีกด้วย นำชมย่านเมืองเก่าของกรุงซาเกร็บซึ่งจัดแบ่งออกเป็น 2 เขตคือ LOWER & UPPER TOWN อย่างลงตัว ผ่านชม โรงละครแห่งชาติ ที่สร้างขึ้นในสไตล์นีโอ-บาร็อก มีลักษณะเป็นรูปตัว U และรายรอบไปด้วยสวนสาธารณะจนได้รับสมญานามว่า “THE GREEN HORSE SHOE”  นำท่านเที่ยวชมบรรยากาศของตัวเมืองซาเกร็บจากจุดชมวิว จากนั้นชม วิหารเซนต์มาร์ก (ST.MARK’S CATHEDRAL) โดดเด่นด้วยหลังคากระเบื้องที่ปูเป็นรูปตราของกองทหารแห่งยุคกลาง เช่น ตราหมากรุกสีแดง-ขาว สื่อถึงโครเอเชีย ส่วนหัวลีโอพาร์ด 3 ตัว แทนแคว้นดัลเมเทีย แถบสีแดง, ฟ้าและขาว หมายถึงสโลเวเนีย และตราฝั่งขวามือคือตราของกองกำลังแห่งซาเกรบ รอบๆ จัตุรัสมีที่ ทำการรัฐบาล (SABOR) และ แกลเลอรี ที่บอกเล่าถึงความเป็นมาของคนชาติโครแอตที่แยกตัวเองจากยูโกสลาเวียในอดีต จากนั้นนำท่านเดินชม ตลาดกลางเมือง (DOLAC MARKET) ตลาดกลางแจ้งที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรป และยังมีสีสันสุดๆ ด้วยตลอดแนวถนนจะมีร้านอาหารคาเฟ่น่ารักๆ ใต้ร่มสีสดใส นำท่านเดินสู่ไปยัง เขตโลเวอร์ทาวน์ เข้าสู่ จัตุรัสกลางเมือง (BAN JELACIC SQUARE) ศูนย์กลางการค้าที่สำคัญในอดีต และที่ชุมนุมผู้คนหลากหลายวัย อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของสถานีรถราง, ห้างสรรพสินค้า และธนาคาร ฯลฯ ชม อนุสาวรีย์ BAN JOSIP JOLACIC ผู้ยิ่งใหญ่และเป็นผู้ซึ่งต่อสู้เพื่อความอิสระจากชาวฮังการีเมื่อปี ค.ศ. 1848  ถึงเวลานัดหมายนำท่านเข้าสู่ ย่าน KOPTOL SQUARE นำท่านเข้าชมและถ่ายรูปที่ระลึกที่ วิหารเซนต์สตีเฟ่น (ST. STEPHAN’S CATHEDRAL) วิหารที่สร้างขึ้นในยุคแรกๆ โดดเด่นกลางเมือง โดยมียอดของวิหารคู่ในสถาปัตยกรรมแบบโกธิก รอบๆ วิหารมีหอคอยทรงกลม 5 หลังที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานจากชาวเติร์กในศตวรรษที่ 16 และยังมี อนุสาวรีย์มาดอนน่า (MOTHER OF GOD) สีทองอร่ามตระหง่านอยู่ด้านหน้าวิหาร

เที่ยง             

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย               

ออกเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติพลิตวิทเซ่ (PLITVICE NATIONAL PARK) แห่งแคว้น ISTRIA & KVARNER ที่ตั้งอยู่ใจกลางของประเทศ เป็น 1 ในอุทยานแห่งชาติทั้งหมด 8 แห่งของโครเอเชียที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อปี ค.ศ. 1979 ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่กว่า  300 ตารางกิโลเมตร มีทะเลสาบถึง 16 แห่งที่ร้อยเป็นสายน้ำตกทั้งขนาดเล็ก, ขนาดใหญ่ ไหลรินสู่  กันและกัน มีพืชพันธุ์และสัตว์ป่านานาชนิด อย่างกวาง สุนัขจิ้งจอก หมูป่า นกพันธุ์หายาก โดยเฉพาะหมีสีน้ำตาล ซึ่งเป็นสัตว์ประจำถิ่นแห่งนี้

ค่ำ                

รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคาร

พักค้างคืน HOTEL JEZERO PLITVICKA JEZERA หรือเทียบเท่า ****

วันที่ 3ซาเกร็บ - อุทยานแห่งชาติพลิตวิทเซ่ - ล่องเรือชมทะเลสาบ - ซาดาร์

เช้า                

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่าน ล่องเรือชมความสวยงามของท้องน้ำสีคราม และเกาะแก่งต่างๆ ในทะเลสาบ ตลอดจนพันธุ์ไม้ป่านานาชนิด ฯลฯ นำท่านเข้าสู่ภายในอุทยานฯ จากนั้นเดินลัดเลาะชมธรรมชาติไปตามทางเรื่อยๆ จนกระทั่งถึง ทะเลสาบพลิตวิทเซ่ ที่มีน้ำใสแจ๋วจนสามารถมองเห็นฝูงปลาได้อย่างชัดเจน และบริเวณใกล้เคียงกันนั้นท่านสามารถชม น้ำตก SLAP WATERFALL น้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดใน  อุทยานฯ ซึ่งมีความสูงถึง 78 เมตร ท่านสามารถสัมผัสละอองน้ำตกชุ่มฉ่ำได้อย่างใกล้ชิด

เที่ยง            

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย               

ออกเดินทางสู่ ซาดาร์ (ZADAR) เมืองท่าสำคัญซึ่งตั้งอยู่บนคาบสมุทรขนาดใหญ่ของทะเลอาเดรียติก อดีตเมืองหลวงของแคว้นดัลเมเทียที่ร่ำรวยไปด้วยอารยะธรรมโรมันที่มีประวัติศาสตร์มากว่า 3,000 ปีมาแล้ว นำท่านเที่ยวชมตัวเมืองซาดาร์ ชมประตูเมืองเก่าสมัยเวนิสมามีอิทธิพลเหนือซาดาร์ อันงดงามด้วยลวดลายและสัญลักษณ์ต่างๆ ชม โบสถ์เซนต์โดแนท (THE CHURCH OF ST.DONAT) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 ซึ่งถือว่าเป็นโบสถ์สไตล์ไบเซนไทน์ที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นดัล  เมเชีย และถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซาดาร์ โบสถ์อนาตาเซีย (ZADAR CATHEDRAL OR ANASTASIA) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 ในรูปแบบไบเซนไทน์ ต่อมาสร้างเพิ่มเติมในศตวรรษที่ 12 และ 13 ในรูปแบบโรมาเนสก์และโกธิกที่งดงาม ชมฟอรั่มหรือย่านชุมชนของโรมันเมื่อสองพันปีก่อนที่นักโบราณคดีจะใช้ความอุตสาหะในการขุดค้นพบหลักฐานสำคัญต่างๆ ในการอยู่อาศัยของชาวโรมัน ชมตลาดกลางเมืองที่มีชีวิตชีวาสดใสด้วยผัก ผลไม้ ไม้ดอก และอื่นๆ อันแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นดิน ชม ซีออร์แกน (SEA ORGAN) นวัตกรรมใหม่ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดที่เมืองบาร์เซโลน่าเมื่อปี ค.ศ. 2005 โดยการใช้ท่อฝังลงไปริมฝั่งทะเล แล้วอาศัยคลื่นน้ำทะเลดันอากาศเข้าไปในท่อที่มีลิ้นแตกต่างกัน ทำให้เกิดโทนเสียงสูงต่ำ ออกจากท่อจำนวนมากเป็นที่น่าอัศจรรย์

ค่ำ               

รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคาร

พักค้างคืน HOTEL KOLOVARE หรือเทียบเท่า ****

วันที่ 4ซาดาร์ - ซิบีนิก - โทรเกียร์ - สปลิต

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ออกเดินทางลัดเลาะเลียบทะเลอาเดรียติกสู่ ซิบีนิก (SIBENIK) เมืองเก่าที่ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวซิบีนิกริมฝั่งทะเลอาเดรียติกที่ได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมจากเวนิส นำท่านเที่ยวชมตัวเมืองเก่าที่หลังคา อาคารบ้านเรือนทำด้วยกระเบื้องสีแสดสไตล์เรอเนสซองส์ที่ได้รับอิทธิพลมาจากอิตาลี นำท่านชมป้อมปราการเมืองและวิหารเซนต์จาคอบ (เซนต์เจมส์) อันงดงามที่สร้างขึ้นมาราวคริสต์ศวรรษที่ 15 ในสมัยเรอเนสซองส์ในปี ค.ศ.1431 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบเวนิส-โกธิกผสมศิลปะทอสคาโน-เรอเนสซองส์ โดยศิลปินชาว อิตาเลียน สมควรแก่เวลานำเดินทางสู่ โทรเกียร์(TROGIR) เกาะเล็กๆ ที่เป็นศูนย์กลางอารยธรรมกรีกโบราณมาตั้งแต่ 380 ปีก่อนคริสตกาล ต่อมาถูกปกครองโดย TRAGURIUM และโรมันมีการอนุรักษ์ความเป็นเมืองเก่า ไม่ว่าจะเป็นจัตุรัสกำแพงเมือง และป้อมปราการไว้เป็นอย่างดีจนได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1997 นำท่านเดินชมภายในเขตเมืองเก่าซึ่งมีบรรยากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน บางครั้งเรียกกันว่า “แคลิฟอเนียร์แห่งโครเอเชีย” และยังเป็นเมืองที่รวบรวมสถาปัตยกรรมต่างยุคไว้มากที่สุดในยุโรปตะวันออก มีทั้งโรมาเนสก์, เรอเนสซองส์และบอร็อก ที่เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์กรีก-โรมันโบราณ เช่น ประตูเมือง (KOPNENA VRATA) ที่มีการบูรณะขึ้นใหม่ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 หอนาฬิกา (FOGGIA & CLOCK TOWER) สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 14 นำชม มหาวิหารเซนต์ลอว์เรนซ์ (CATHEDRAL OF ST.LAWRENCE) ที่สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 12 ในรูปแบบของศิลปะแบบโรมันเนสก์ โดยมีสิงโต, อดัม & อีฟ และรูปสลักนักบุญองค์สำคัญต่างๆ

เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย
ออกเดินทางสู่ สปลิต (SPLIT) เมืองใหญ่อันดับที่สองรองจากซาเกร็บ หากเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เมืองริมอาเดรียติกด้วยกัน สปลิตเมืองศูนย์กลางการพาณิชย์ และการคมนาคมของแคว้นดัลเม เชี่ยน โดยเป็นอีกเมืองหนึ่งที่องค์การยูเนสโกประกาศเป็นเมืองมรดกโลก นำท่านเที่ยวชมตัวเมืองสปลิตที่สร้างรายล้อมพระราชวังดิโอคลีเชียน ประกอบด้วยศาลาว่าการเมืองสไตล์เรอเนสซองส์ สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15 อาคารบ้านเรือนเก่าแก่ต่างๆ เข้าชม พระราชวังดิโอคลีเชียน (DIOCLE TIAN’S PALACE) สถานที่ประทับของจักรพรรดิไดโอคลิเชียนแห่งเวนิสของจักรวรรดิโรมัน ที่มีพระประสงค์ใช้เป็นที่ประทับในบั้นปลายของชีวิตในปี ค.ศ. 295 ภายในพระราชวังประกอบด้วยไปด้วยทางเข้าหลักหรือ GOLDEN GATE, มหาวิหารเทพเจ้าจูปิเตอร์, โบสถ์แห่งเทพวีนัส, วิหารโดมนิอุส ที่จัดเรียงรายรวมกันอย่างลงตัว ชมย่าน จัตุรัสประชาชน (PEOPLE’S SQUARE) ศูนย์กลางทางธุรกิจ และการบริหาร จากเมื่อสมัยศตวรรษที่ 15 และสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียง เช่น รูปภาพแกะสลักสมัย VENETIAN-GOTHIC CAMBI PALACE และ RENAISSANCE TOWN ที่สร้างขึ้นในช่วงแรกของศตวรรษที่ 15

ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน HOTEL PRESIDENT SPLIT หรือเทียบเท่า ****

วันที่ 5สปลิต - มาลี สตอน - นีอุม (บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา) - ดูบรอฟนิก

เช้า                

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

ออกเดินทางลัดเลาะเลียบไปตามชายฝั่งทะเลอาเดรียติก ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศริมชายฝั่งทะเลที่มีบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีแสดสลับตามแนวชายฝั่งเป็นระยะๆ ผ่าน เมืองนีอุม (NEUM) เมืองในเขตประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีน่า เป็นเมืองชายทะเลเพียงเมืองเดียวของบอสเนียและเฮอร์เซโก  วีน่า โดยมีความยาวของชายฝั่งประมาณ 24.5 กิโลเมตรเป็นทางออกสู่ทะเลอาเดรียติกทางเดียวของประเทศ  เป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงเมืองหนึ่ง แวะบันทึก ภาพความงดงามของทะเลสาบ BACINSKA ที่สวยงามเกินคำบรรยาย จนถึง เมืองมาลีสตอน สถานที่ตั้งฟาร์มเลี้ยงหอยนางรม-หอยแมลงภู่ที่สำคัญริมทะเลอาเดรียติกเมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองดูบรอฟนิก เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของหอยนางรมและผลิตภัณฑ์จากหอยนางรมสดๆ จากทะเลอาเดรียติก หมู่บ้านที่สงบเงียบแห่งนี้ตั้งอยูริ่มฝั่งบริเวณโค้งอ่าวกว้าง เปรียบเสมือนเป็นด่านหน้าของเมืองดูบรอฟนิกในอดีตมีความเจริญรุ่งเรืองจากการค้าเกลือดังนั้นกำแพงป้องกันจึงมีความจำเป็นซึ่งสามารถมองเห็นกำแพงโบราณนี้ได้จากระยะไกลในปัจจุบัน สตอน ในอดีตเคยอยู่ใต้การปกครองของโรมันจนกระทั่งถูกทำลายโดยพวกมองโกล

เที่ยง             

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย               

ออกเดินทางสู่ ดูบรอฟนิก (DUBROVNIK) เมืองทางตอนใต้ของประเทศที่มีพรมแดนติดต่อกับ  ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีน่า นำท่านเดินทางสู่สถานีเคเบิลคาร์เพื่อขึ้น กระเช้าไฟฟ้า สู่ ยอดเขา SRD ที่มีความสูง 400 เมตร เพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมืองหลังคาสีและความงดงามทะเลอาเดรียติก ยามสีน้ำเงินของทะเลอาเดรียติกตัดกับสีส้มแสดของกระเบื้องหลังคาเมืองเก่า สวยงามเกินจินตนาการมากว่าคำบรรยายใดๆ

ค่ำ               

รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคาร

พักค้างคืน HOTEL VALAMAR LACROMA DUBROVNIK หรือเทียบเท่า ****

วันที่ 6ดูบรอฟนิก - ชมเมือง

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินเที่ยวชมบริเวณ เมืองเก่า (OLD TOWN) ซึ่งตั้งอยู่ในโอบล้อมกำแพงโบราณสูงตระหง่าน ตรงบริเวณพื้นที่ริมทะเลอาเดรียติก เป็นเขตชุมชนเริ่มแรกที่บรรพบุรุษชาวดูบรอฟนิกมาสร้างบ้านแปงเมืองไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 และสร้างกำแพงเมืองแข็งแรงขึ้นล้อมเมืองไว้ในศตวรรษที่ 13 เพื่อป้องกันภัยจากศัตรู เช่น พวกอาหรับ, เวเนเชียน, มาชีโดเนียนและเซิร์บ ภายในเขตเมืองเก่ามากมายด้วยสิ่งก่อสร้างโบราณ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ นำท่านเดินเที่ยวชมตัวเมืองโดยเริ่มต้นจาก ประตูหลัก (PILE GATE) สู่ STRADUM พื้นทางเดินเป็นหินอันเป็นถนนสายหลักจาก น้ำพุโบราณทรงกลม (ONFRIO FOUTAIN) ไปจนสุดมุมถนนล้วนเรียงรายไป ด้วยสถานที่สำคัญ อาทิเช่น FRANCISCAN MONASTERY วิหารในสถาปัตยกรรมโกธิก ภายในมีร้านขายยาที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรป ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1391 ชม สปอนซ่า พาเลซ (THE SPONZA PALACE) พระราชวังงดงามในสถาปัตยกรรมโกธิกผสมเรอเนซองส์ ซึ่งโดดเด่นด้านงานหินที่อ่อนช้อย เชื่อว่าในอดีตเป็นที่พบปะของพ่อค้าวานิชและสถานที่เก็บภาษีสินค้า ปัจจุบันเป็นสถานที่เก็บรักษาเอกสารความสัมพันธ์ทางการเมือง เศรษฐกิจของดูบรอฟนิกกับประเทศยุโรปต่างๆ ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 จากนั้นให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกบริเวณจัตุรัสกลางเมือง ซึ่งเป็นสถานที่นัดพบและประกอบกิจกรรมของชาวเมืองในอดีตรวมถึงสถานที่ลงโทษผู้กระทำผิดด้วย ถ่ายรูปที่ระลึกกับ เสาหินอัศวิน (ORLANDO COLUMN) หอนาฬิกา (BELL TOWER) ที่ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนสายหลัก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1444 หน้าปัดทำด้วยเหล็ก มีความพิเศษตรงลูกกลมๆ ใต้หน้าปัดซึ่งแทนพระจันทร์บอกข้างขึ้นข้างแรมในสมัยก่อนและรูปปั้นของ นักบุญ ST.BLAISE ซึ่งมีโบสถ์ประจำเมืองสไตล์โรมาเนสก์แห่งแรกของเมืองเป็นฉากหลัง และ โบสถ์ THE CATHEDRAL TREASURY สถานที่เก็บอัฐิของนักบุญ ST. BLAISE ภาพเขียน และชิ้นงานศิลปะรวมถึงวัตถุล้ำค่าจำนวนมากและยังมีส่วนผลิตเหรียญกษาปณ์และทองของชั่งที่มีชื่อเสียงของดูบรอฟนิกอีกด้วย นำท่านเข้าชม เรคเตอร์ พาเลซ (RECTOR’S PALACE) สร้างขึ้นในสถาปัตยกรรมโกธิกผสมเรอเนสซองส์ อดีตเคยเป็นที่ทำการรัฐบาล ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมสมบัติล้ำค่าไว้มากมาย

เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย
นำท่านเดินทางสู่บริเวณ เมืองเก่าดูบรอฟนิก อีกครั้งหนึ่ง จากนั้นอิสระให้ท่านได้ขึ้นสู่ กำแพงเมือง (CITY WALK) ที่เ ริ่มสร้างในศตวรรษที่ 13 มีกำแพงยาวประมาณ 1,940 เมตร สูง 25 เมตร สลับด้วยหอรบ 5 หอ หอคอยทรงกลม 3 หอ และทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส และสี่เหลี่ยมผืนผ้า 12 หอ สร้างขึ้น ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่13ได้ชื่อว่ามีความมั่นคงและแข็งแกร่งที่สุดในน่านน้ำนี้ในช่วงที่มีการขยายอำนาจของอาณาจักรออตโตมัน กำแพงเมืองที่มีความหนา 3 เมตร ได้รับการเสริมเพิ่มเติมเป็น 6 เมตร แต่ดูบรอฟนิคต้องประสบกับภัยทางธรรมชาติได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1667 มีคนเสียชีวิตกว่า 5,000 คน ทำให้ตัวเมืองเสียหายมากแต่ทว่ากำแพงยังคงอยู่และประสบภัยอีกครั้งจากสงครามถูกถล่มโดยจรวดของกองทัพยูโกสลาเวียในปี ค.ศ. 1991 แต่ความเสียหายในส่วนนี้ได้รับเงินทุนสนับสนุนในการซ่อมแซมจากองค์การยูเนสโกท่านจะประทับใจกับวิวทิวทัศน์ขณะที่เดินไปตามสันแนวของกำแพงซึ่งมีทั้งอาคารสถาปัตยกรรมโบราณสไตล์บาร็อกในย่านเมืองเก่า และท้องทะเลสีครามที่สามารถมองออกไปไกลสุดสายตาภายใต้ท้องฟ้าแสนสดใส บางช่วงตอนของกำแพงจะต้องผ่านป้อมปราการที่ใหญ่มหึมา และหาดที่เต็มไปด้วยหินผาทำให้ตลอดระยะเวลาในการเดินบนกำแพงเมืองโบราณนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเชื่อ สร้างความประทับใจมิรู้เลือน

ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน HOTEL VALAMAR LACROMA DUBROVNIK หรือเทียบเท่า ****

วันที่ 7ดูบรอฟนิก - ช้อปปิ้ง - เวียนนา - กรุงเทพฯ

เช้า              

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

ออกเดินทางสู่ KONZUM SUPER MARKET เพื่อให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากจากประเทศโครเอเชีย  ภายในซุปเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นที่มีสินค้าหลากหลายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “KRAS”  ช็อกโกแลตท้องถิ่น ยี่ห้อที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปตะวันออก, ไวน์โลกเก่าท้องถิ่น DINGAC, POSTUP จากองุ่นพันธุ์ท้องถิ่น PLAVAC MALI คุณภาพระดับเดียวกับไวน์ฝรั่งเศสหรืออิตาเลี่ยน และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย อิสระให้ท่านได้เลือกชื่นชมและช้อปปิ้งตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินดูบรอฟนิก เตรียมเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร

13.00 น.       

คณะทัวร์อำลา ดูบรอฟนิก เดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ (OS) เที่ยวบิน OS732/OS025 (15.25-16.50/23.20-14.20) แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินเวียนนา ประเทศออสเตรีย

บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน

วันที่ 8 กรุงเทพมหานคร

14.50 น.       

คณะเดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ … พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม