17.30 น.
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 บริเวณเคาน์เตอร์ สายการบินกาต้าร์แอร์เวย์ (QR) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระ และบัตรที่นั่ง
20.30 น.
คณะเหินฟ้าสู่ เมืองเอดินเบิร์กโดยเที่ยวบินที่ QR829/QR031 (20.30-23.55/01.20-06.00) ระหว่างการเดินทางท่านจะได้รับการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่ พร้อมการบริการอันสุดแสนประทับใจ (แวะเปลี่ยนเครื่องที่กรุงโดฮาประเทศกาต้าร์) ä บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน
06.00 น.
คณะเดินทางถึง สนามบินนานาชาติกรุงเอดินเบอระ จากนั้นนำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋าสัมภาระ รถโค้ชปรับอากาศและคนขับผู้ชำนาญเส้นทางคอยต้อนรับท่าน จากนั้นนำท่านแวะถ่ายภาพ จุดชมวิว สะพานฟอร์ท (FORTH BRIDGES VIEWPOINT) ซึ่งเป็น สะพานทางรถไฟยื่นที่ข้ามเฟิร์ธออฟฟอร์ธทางตะวันออกของสกอตแลนด์ ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของสกอตแลนด์ ได้รับการรับรองเป็นมรดกโลกของยูเนสโก สะพานออกแบบโดยวิศวกรชาวอังกฤษ เซอร์จอห์น ฟาวเลอร์และเซอร์เบนจามิน เบเกอร์ เปิดใช้ครั้งแรกในปีค.ศ. 1890 สะพานฟอร์ทมีความยาว 8,094 ฟุต (2,467 เมตร) เมื่อตอนเปิดใช้เป็นสะพานยื่นชิ้นเดียวที่ยาวที่สุดในโลก จนกระทั่งปี 1919 สะพานควิเบกในแคนาดาสร้างเสร็จจึงทำลายสถิตินี้ แต่ยังคงเป็นสะพานที่มีช่วงกว้างสะพานยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก จากนั้นคณะเดินทางเข้าสู่ กรุงเอดินเบอระ (EDINBURGH) เมืองหลวงของสก็อตแลนด์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สวยงาม จากนั้นนำท่านขึ้นสู่ ยอดเขาแคลตัน (CALTON HILL) ให้ท่านชมความสวยงามของเมืองที่ถูกแบ่งเป็นสองฝั่งของโอลด์ ทาวน์ และนิวทาวน์ นอกจะชมวิวทิวทัศน์ของตัวเมืองแล้ว บนเนินเขาแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานรำลึกถึงสงครามนโปเลียนที่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ สถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงมหาวิหารแพนธีออน ในประเทศกรีซ ทำให้เอดินเบอระได้รับการขนานนามว่า “เอเธนส์แห่งทิศเหนือ” นำท่านผ่านชม อนุสาวรีย์บ๊อบบี้ สุนัขพันธุ์สกายเทอเรียร์ที่โด่งดังที่สุดตัวหนึ่งของโลก จากความซื่อสัตย์และจงรักภักดี นำท่านเข้าสู่ ถนนรอยัลไมล์ถนนสายสำคัญที่เชื่อมสู่พระตำหนักโฮลีรูด (PALACE OF HOLYROOD HOUSE) ซึ่งเป็นที่ประทับของพระราชินีเวลาเสด็จเยือนสก็อตแลนด์ และเคยเป็นที่ประทับของพระนางแมรีแห่งสก็อต ฝั่งตรงข้ามเป็นรัฐสภาแห่งชาติสก็อตอันน่าภาคภูมิใจด้วยสถาปัตยกรรมร่วมสมัย
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าชม ปราสาทเอดินเบอระ (EDINBURGH CASTLE) อันสง่างามด้วยทำเลที่ตั้ง บนเนินเขาสูง มองเห็นเด่นเป็นสง่าจากทุกมุมเมือง เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์สก็อตแลนด์ เคยถูกทำลายลงหลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็ได้รับการบูรณะและสร้างใหม่ให้กลับคืนสู่ความสง่างาม จากนั้นนำท่านเข้าสู่ ถนนควีน แหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่อในเขตเมืองใหม่เอดินเบอระ ท่านจะได้ชมบรรยากาศบ้านเรือนอันสวยงามซึ่งสลับกับร้านค้า ร้านอาหารที่ตั้งเรียงรายกันไปตลอดถนนเส้นนี้ จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่นและช้อปปิ้งเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกตามอัธยาศัย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน HOLIDAY INN EDINBURGH HOTEL หรือเทียบเท่า ****
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองกลาสโกว์ (GLASGOW) เมืองที่ใหญ่ที่สุดของสก็อตแลนด์ ตั้งอยู่บนแม่น้ำไคลด์ เมืองกลาสโกว์นั้นถือเป็นเมืองใหญ่ในสหราชอาณาจักรที่มีความเจริญรุ่งเรืองและล้ำสมัยมากที่สุด นำท่านแวะถ่ายภาพย่าน จัตุรัสจอร์จ (GEORGE SQUARE) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางตัวเมืองกลาสโกว์ ซึ่งตั้งชื่อตามพระเจ้าจอร์จที่ 3 สร้างขึ้นประมาณปี ค.ศ. 1781 จากนั้นนำท่านสัมผัส สีสันของเมืองกลาสโกว์ที่ ถนนบูชชาแนน (BUCHANAN STREET) สถานที่แห่งการนัดพบของคนท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือแม้แต่ยามค่ำคืน ถนนสายนี้จะเป็นถนนที่มีผู้คนพลุกพล่านมาก ท่านสามารถเดินชมอาคารบ้านเรือนที่ยังคงอนุรักษ์ความเก่าแก่ และสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมไว้เป็นอย่างดี อิสระให้ท่านได้เดินเล่นหรือช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองแคไรอัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ท่าเรือเฟอร์รี่แคไรอัน (CAIRNRYAN PORT) ระหว่างทางให้ท่านได้สัมผัสและเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม และวิถีชีวิตในชนบท
15.30 น.
ออกเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่สู่ กรุงเบลฟาสต์ (BELFAST) เชิญท่านเพลิดเพลินกับการชมวิวทิวทัศน์ และความสวยงามของท้องทะเลระหว่างเส้นทางตลอดระยะทางซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
17.45 น.
เรือเข้าเทียบท่า กรุงเบลฟาสต์ จากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถโค้ชเที่ยวชม กรุงเบลฟาสต์ เมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือ ตั้งอยู่บนฝั่งของแม่น้ำแลนบริเวณชายฝั่งตะวันออก และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในไอร์แลนด์เหนือ
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน CROWNE PLAZA BELFAST HOTEL หรือเทียบเท่า ****
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าชมภายใน พิพิธภัณฑ์เรือไททานิค (TITANIC MUSEUM) เรือโดยสารเดินสมุทรขนาดใหญ่ที่ต่อขึ้นในช่วงค.ศ 1909 และจมลงในมหาสมุทรแอตแลนติคเมืองวันที่ 15 เมษายน 1912 หลังจากชนภูเขาน้ำแข็งในระหว่างการเดินทางเที่ยวแรกจากอังกฤษไปยังนคร นิวยอร์ค ท่านจะได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาของเรือไทแทนิค ขั้นตอนการออกแบบและการต่อเรือ รวมถึงการตกแต่งภายในที่สุดแสนหรูหรา นำท่านนั่งโดยสารแคปซูลการเวลาย้อนรอยเรื่องราวความยิ่งใหญ่ของเรือไททานิค ตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งจมลงสู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติก ประหนึ่งว่าท่านได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง ๆ เลยทีเดียว ได้เวลานัดหมายนำคณะออกเดินทาง เพื่อไปแวะถ่ายรูปกับอุโมงค์ต้นไม้ (DARK HEDGES) สถานที่ถ่ายทำซีรีย์ชื่อดัง GAME OF THRONES เป็นอุโมงค์ต้นไม้ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกโดยตระกูลสจ๊วต (STUART) ได้ปลูกต้นไม้นี้ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 จากนั้นเดินทางสู่ บุชมิลส์ (BUSHMILLS) หมู่บ้านที่ตั้งชื่อตามแม่น้ำบุชที่ไหลผ่านหมู่บ้าน และยังเป็นที่ตั้งของโรงกลั่น OLD BUSHMILLS ซึ่งผลิตวิสกี้ไอริชดั้งเดิม
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถท้องถิ่นไปยัง บริเวณชายหาดหินทางเดินยักษ์ (THE GIANT’S CAUSEWAY) หรือที่รู้จักในนาม “หาดหินพิศวง” ลักษณะเป็นคันถนนหินซึ่งเกิดจากเสาหินบะ ซอลต์จำนวนมหาศาล ที่ตั้งเบียดกันแน่นจนส่วนหัวเสาเรียงลำดับลดหลั่นกันเป็นขั้นบันไดปูลาด จากเชิงผาลงสู่ท้องสมุทร เสาหินเหล่านี้ส่วนใหญ่มีรูปร่างเป็นเสาหินหกเหลี่ยม แต่ก็มีปะปนทั้งแบบสี่เหลี่ยม ห้าเหลี่ยม ตามตำนานเล่าว่าทางเดินหินนี้เป็นฝีมือของยักษ์ตนหนึ่ง ซึ่งเกิดความรักที่เกาะสตาฟฟาของสกอตแลนด์จึงได้สร้างทางเดินแห่งนี้ เพื่อนางอันเป็นที่รักจะได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่ไอร์แลนด์ ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของมูลนิธิอนุรักษ์ธรรมชาติของเนชั่นแนลทรัสต์ และเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งแรกของไอร์แลนด์เหนือ จากนั้นเดินทางไปยังจุดชมวิวสะพานแขวนคาร์ริค (CARRICK-A-REDE ROPE BRIDGE) ที่รู้จักกันในชื่อ RICK-A-REEDY เป็นสะพานเชือกที่มีชื่อเสียง ตัวสะพานแขวน เชื่อมโยงแผ่นดินใหญ่กับเกาะเล็กๆ ของ CARRICK-A-REDE มีช่วงสะพานแขวนที่ยาวถึง 20 เมตร และสูงจากพื้นด้านล่างกว่า 30 เมตร เป็นจุดท่องเที่ยวที่ได้รับควานิยมเป็นอย่างมาก (บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่เข้าชมสะพานหากมีลมแรงหรือสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย) อิสระให้ทุกท่านเก็บความประทับใจตามอัธยาศัย ถึงเวลานัดหมายนำท่านเดินทางสู่ เมืองลอนดอนเดอร์รี่ (LONDONDERRY) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไอร์แลนด์เหนือ เดิมชื่อว่าเดอร์รี่ (DERRY) เป็นภาษาไอริช หมายถึง ป่าละเมาะ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำฟอยล์ (RIVER FOYLE)
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน BEST WESTERN PLUS WHITE HORSE HOTEL หรือเทียบเท่า ****
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านแวะถ่ายภาพสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้คือ กำแพงเมืองเดอร์รี่ (DERRY CITY WALLS) ซึ่งมีทั้งหมด 7 ประตู โดยเดิมมี 4 ประตู สร้างในศตวรรษที่ 17 ชื่อว่า FERRYQUAY GATE, BISHOP’S GATE, BUTCHER GATE และ SHIPQUAY GATE อีก 3 ประตู โดยสร้างขึ้นภายหลัง คือ MAGAZINE GATE, NEW GATE และCASTLE GATE นำชม อาสนวิหารเซ็นต์โคลอมส์ (ST. COLUMB’S CATHEDRAL) สร้างในปี ค.ศ. 1628 ทำด้วยหินเก่าแก่ นับเป็นอาสน วิหารแห่งแรกในหมู่เกาะอังกฤษ (BRITISH ‘ISLES) ในช่วงปี ค.ศ.1633-1776 สถาปัตยกรรมเป็น แบบดั้งเดิม จนกระทั่งบิชอปแห่งเดอร์รี่ (BISHOP OF DERRY) ได้เพิ่มความสูงขึ้นอีก 21 ฟุต รวมความสูงทั้งสิ้น 221 ฟุต ทำให้เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความสูงโดดเด่นอีกแห่งหนึ่งในเมืองนี้ ชมหอคอยพิพิธภัณฑ์ (HERITAGE TOWER MUSEUM) สำหรับชมเมืองและจัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ จากนั้นเดินทางสู่ กิลด์ฮอลล์ (THE GUILDHALL) หนึ่งในแลนด์มาร์คที่สำคัญของ เมืองลอนดอนเดอร์รี่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองตั้งแต่ปี ค.ศ. 1890 เดิมใช้เป็นที่ประชุมสภาและที่พักของนายกเทศมนตรี ลักษณะที่โดดเด่นคือหอนาฬิกา อาคารอิฐและหน้าต่างกระจกสี ปัจจุบันมีการจัดแสดงนิทรรศการ ได้เวลานัดหมายนำท่านเดินทางสู่ เมืองสลิโก (SLIGO) เมืองท่าชายฝั่ง
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองกัลเวย์ (GALWAY) ซึ่งได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองแห่งชนเผ่า เนื่องจากเมื่อครั้งยุคกลาง ดินแดนแถบนี้เคยอยู่ในความครอบครองของชนชาติต่างๆ ถึง 14 เผ่าด้วยกัน และยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมรดกทางศิลปะและความเฟื่องฟูทางศิลปกรรมแขนงต่างๆ รวมทั้งดนตรี ละครเวที และภาพยนตร์ นำท่านชม อ่าวกัลเวย์ (GALWAY BAY) หนึ่งในจุดที่สวย ที่สุดของไอร์แลนด์ ให้ท่านสัมผัสวีถีชีวิตริมทะเล มีเรือประมงออกหาปลาและร้านค้าหลากสีสันรอบอ่าวกัลเวย์ บริเวณอ่าวกัลเวย์เดิมเป็นหมู่บ้านชาวประมง แคลดแดคห์ (CLADDAGH) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำคอร์ริบ (CORRIB RIVER) นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพนกและทิวทัศน์ริมทะเลในช่วงพระอาทิตย์ตก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน THE GALMONT HOTEL หรือเทียบเท่า ****
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ คลิฟส์ ออฟ โมเออร์ (CLIFFS OF MOHER) ผาชันแห่งโมเออร์ตั้งอยู่ในเขตเคาน์ตี แคร์ เป็นหนึ่งในทิวทัศน์อันน่าทึ่งที่สุดของไอร์แลนด์ ตั้งตระหง่านด้วยความสูง 230 เมตร เหนือมหาสมุทรแอตแลนติกอันเกรี้ยวกราด แนวผาทอดยาวสุดสายตาเป็นระยะทางราว 8 กิโลเมตร บนยอดของหน้าผาเป็นที่ราบกว้างใหญ่ อยู่สูงจากน้ำทะเลเบื้องล่างทำให้เกิดทัศนียภาพอันงดงามที่น่าอัศจรรย์ทางธรรมชาติของผาชัน ขุนเขา และท้องทะเลมหาสมุทรแอตแลนติก บ้างก็ว่าการได้มาเยือนคลิฟส์ ออฟ โมเออร์ เสมือนได้มายืน ณ จุดปลายสุดของขอบโลก และยังเป็นฉากในภาพยนต์ HARRY POTTER อีกด้วย อิสระให้ท่านได้เก็บภาพธรรมชาติอัน น่าพิศวงและดื่มด่ำกับอากาศบริสุทธิ์ตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองลิเมอร์ริค (LIMERICK) เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 มีทำเลที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแชนนอน ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่ามี ทัศนียภาพงดงามที่สุดของไอร์แลนด์
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ กรุงดับลิน (DUBLIN) เมืองหลวงของ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ เมืองที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลไอริชมีหาดทรายที่ยาวไปตามชายฝั่งทะเล ชื่อดับลินนั้นมาจากคำว่า DUBH LINN ซึ่งในภาษาไอริชมีความหมายว่า “สระน้ำสีดำ” (BLACK POOL) มีการจดบันทึกว่าถูกตั้งเป็นชุมชนตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 ของอาณาจักรไอร์แลนด์ หลังจากการแบ่งแยกไอร์แลนด์ในปี 1922 ดับลินกลายเป็นเมืองหลวงของรัฐอิสระไอริชภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นประเทศไอร์แลนด์ เป็นศูนย์กลางทาง ประวัติศาสตร์และร่วมสมัยสำหรับการศึกษาศิลปะการบริหารเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม นำท่านสู่ ถนนกราฟตัน (GRAFTON STREET) เพื่อให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าและของฝาก อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งแบบจัดเต็ม หากท่านที่ต้องการซื้อสินค้าแบรนด์เนม เช่น LOUIS VUITTON, MARKS & SPENCER, THE BODY SHOP และอื่นๆ อีกมากมาย อิสระให้ท่านได้เดินเล่น และเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน RIU PLAZA THE GRESHAM DUBLIN HOTEL หรือเทียบเท่า ****
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเข้าชม ปราสาทดับลิน (DUBLIN CASTLE) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเก่าแก่ที่สุดของไอร์แลนด์ สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1204 โดยกษัตริย์จอห์นแห่งอังกฤษ ปัจจุบันปราสาทดับลินนั้นถือ ว่าเป็นสัญลักษณ์ของการปกครองของอังกฤษในไอร์แลนด์จนได้รับอิสระเป็นสาธารณรัฐไอร์แลนด์ในปี 1922 ปราสาทแห่งนี้ยังคงใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญระดับประเทศ เช่น จัดการประชุมของสหภาพยุโรป และจัดงานคอนเสิร์ตสำคัญ เป็นต้น จากนั้นนำท่านผ่านชม สถาปัตยกรรม สไปร์ ออฟ ดับลิน หรือ อนุสาวรีย์แห่งแสง (SPIRE OF DUBLIN) อนุสาวรีย์ที่สร้างจากเสาสแตนเลสรูปกรวยที่มีปลายยอดแหลม ซึ่งมีความสูงประมาณ 121.2 เมตร (398 ฟุต) โดยในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของเสาเนลสัน เป็นสัญลักษณ์ของเมืองตั้งตระหง่านอยู่กลางถนน ผ่านชมสวนสาธารณะโฟนิค และย่าน อาคารจอร์เจียที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามของเรื่องประตู นำท่านผ่านชม ทรีนิตี้ คอลเลจ (TRINITY COLLEGE) มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในไอร์แลนด์ สร้างในสมัย ค.ศ.1592 โดยควีนอลิซาเบธที่ 1 ในยุคที่เป็นอาณานิคมของอังกฤษ ผู้นำประเทศหลายคนจบจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ อาคารสถาปัตยกรรมยังคงรูปแบบดั้งเดิมไม่ถูกทำลาย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินดับลิน เตรีมเดินทางกลับสู่ กรุงเทพมหานคร
14.05 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบิน QR018/QR836 (14.05-23.55/02.30-13.05) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์มีบจอทีวีส่วนตัว และอีกหลากหลายความบันเทิงตลอดการเดินทาง (แวะเปลี่ยนเครื่องที่กรุงโดฮาประเทศกาต้าร์) ä บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องตลอดเที่ยวบิน
13.05 น.
คณะเดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ … พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม