ทัวร์นามิเบีย แอฟริกาใต้ 9 วัน

0
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ชื่อ-นามสกุล*
อีเมล*
เบอร์โทรติดต่อ*
จำนวนผู้เดินทาง*
* I agree with Terms of Service and Privacy Statement.
Please agree to all the terms and conditions before proceeding to the next step
บันทึกโปรแกรมทัวร์

Adding item to wishlist requires an account

983
Tour Details
  • สายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ เดินทางด้วยเครื่องลำใหม่ Dreamliner และ Boieng 777
  • โรงแรมระดับมาตรฐานสากลระดับ 4 ดาว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
  • รถโค้ชปรับอากาศมาตรฐาน พร้อมคนขับที่ชำนาญเส้นทาง
  • หัวหน้าทัวร์ที่มีประสบการณ์ มีความรับผิดชอบสูง ให้บริการ และอำนวยความสะดวกอย่างใกล้ชิด

สัมผัสมนต์เสน่ห์แอฟริกา…นามิเบีย-แอฟริกาใต้-นามากัวร์แลนด์ 9 วัน โดยสายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ (ET) เปิดโลกใบใหม่ด้วยประสบการณ์ตลุยทะเลทรายชมทุ่งดอกไม้ป่าในอุทยานนามากัวอันสวยงาม ชมแคนยอนที่ใหญ่อันดับสองของโลกที่ฟิชริเวอร์แคนยอน พักในอุทยานกอนวานาท่ามกลางบรรยากาศสุดแสนโรแมนติค ตะลุยทะเลทรายคาราฮารีพร้อมนั่งรถ  GAME DRIVE ชมสัตว์ป่านานาชนิด ขึ้นเทเบิลเมาท์เท่น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก  ชิมไวน์ที่กรูทคอนสแตนเทียไวน์เอสเตท พร้อมเที่ยว เมืองเก่าที่มีเสน่ห์สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมบ้านเรือนแบบเคปดัชต์ อันงามสง่า สัมผัสประสบการณ์อันแปลกใหม่ที่ทำให้ท่านประทับใจ…มิรู้ลืม

Itinerary

วันที่ 1กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)

22.00 น.         

คณะผู้เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารขาออกชั้น 4 สายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ (ET) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง

วันที่ 2กรุงเทพฯ – วินด์ฮุก (นามิเบีย)

01.50 น.   

ออกเดินทางสู่ วินด์ฮุก โดยเที่ยวบินที่ ET629/ET835 (01.50-06.30/08.35-13.20) แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินนานาชาติอาดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย  ä พร้อมบริการอาหาร และเครื่องดื่ม ตลอดเที่ยวบิน  ระหว่างการเดินทางท่านจะได้รับการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่ พร้อมรับการบริการอันสุดแสนประทับใจ เพลิดเพลินกับจอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่งรับชมโปรแกรมความบันเทิงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์นานาชาติ เพลงสากล สารคดี ช่องกีฬา รวมถึงการ์ตูนสำหรับคุณหนูๆ ด้วย

13.20 น.    

คณะเดินทางถึง วินด์ฮุก (WINDHOEK) เป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐนามิเบีย เมืองตั้งอยู่ในบริเวณ Khomas มีประชากร 230,000 คน และเป็นศูนย์กลางทางด้านการเมืองการปกครองการค้าของประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติซึ่งเป็นประตูสู่ประเทศนามิเบีย ในอดีตจักรวรรดิเยอรมันได้ยึดครองบริเวณดังกล่าวใน ค.ศ. 1885 และมันได้กลายเป็นที่ตั้งของการปกครองอาณานิคมใน ค.ศ. 1892 ในฐานะเมืองหลวงของอาณานิคมแอฟริกาตะวันตกเฉียงใต้-เยอรมัน ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง วินด์ฮุกถูกยึดโดยกองทหารแอฟริกาใต้และกลายเป็นดินแดนใต้อาณัติปกครองของแอฟริกาใต้ ภายใต้องค์การสันนิบาตชาติ  หลังจากนำท่านผ่านพิธีการทางสนามบินแล้วนำท่านเดินทางสู่ตัวเมืองวินด์ฮุก นำท่านชม  ความสวยงามของเมือง อดีตอาณานิคมของเยอรมันบ้างเรือนความเป็นอยู่ได้รับอิทธิพลจากทางยุโรปจนลืมไปเลยว่าที่นี่คือแอฟริกา นำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์ประจำเมือง , อาคารรัฐสภา, แวะช้อปปิ้งเสบียงสำหรับการเดินทางกันตามอัธยาศัย  ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พักอิสระพักผ่อนหลังจากการเดินทางไกล จนได้เวลานัดหมายนำท่านสู่ภัตตาคารรับประทานอาหารค่ำ จากนั้นนำท่านสู่โรงแรมที่พัก

ค่ำ               

บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรมหลังอาหารอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย

ที่พัก HILTON GARDEN INN WINDHOEK HOTEL หรือเทียบเท่า****

วันที่ 3วินด์ฮุก - เรโฮโบธ - ทะเลทรายคาลาฮารี - นั่งรถ GAME DRIVE ชมสัตว์ป่า

เช้า             

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ทะเลทรายคาลาฮารี หนึ่งในทะเลทรายที่มีชื่อเสียงที่สุดของแอฟริกา ระหว่างทางท่านจะได้ชมความงามของทัศนียภาพของภูมิภาคกึ่งทะเลทรายอันสวยงาม ทะเลทรายแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศนามิเบีย มีเนื้อที่ 900,000 ตร.กม. (350,000 ตร.ไมล์) ครอบคลุมพื้นที่ในประเทศบอตสวานาและบางส่วนของประเทศแอฟริกาใต้และนามิเบีย มีปริมาณน้ำฝนน้อยมาก ในฤดูร้อนมีอุณหภูมิสูงมาก มีปริมาณน้ำฝนราว 3–7.5 นิ้ว (76–190 มม.) ต่อปี  จากการที่มีพอมีฝนตกอยู่บ้าง ทำให้ทะเลทรายคาลาฮารี ได้ชื่อว่าเป็นทะเลทรายที่อุดมสมบูรณ์และเปียกชื้นที่สุดของแอฟริกา มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มาก สภาพภูมิประเทศเป็นทุ่งหญ้าสลับกับต้นไม้ มีลักษณะคล้ายทุ่งสะวันนา ในอดีตทะเลทรายคาลาฮารีเคยมีพื้นที่กว้างขวางไปจรดถึงทะเลทรายสะฮาราทางตอนเหนือ ปัจจุบันอุณหภูมิในช่วงเวลากลางวันที่  แดดร้อนจัดอาจสูงได้ถึง 70 องศาเซลเซียสบนพื้นดิน และในเวลากลางคืนก็มีอุณหภูมิถึงขั้นติดลบ ระหว่างทางแวะชมความสวยงามของเมืองเรโฮโบธ เมืองที่ตั้งอยู่กลางประเทศนามิเบีย มีชื่อเสียงในด้านที่เป็นเมืองที่มีน้ำพุร้อนเป็นจำนวนมาก มีชนพื้นเมืองตั้งถิ่นฐานมาตั้งแต่อดีต และถือได้ว่าเป็นจุดยุทศาสตรสำคัญในการควบคุมพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์ทางตอนกลางของประเทศ

เที่ยง           

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย           

นำท่านเดินทางกันต่อจนถึงที่พักในเขตทะเลทรายคาลาฮารี ให้ท่านได้เก็บภาพและตลุยทะเลทรายสีแดงที่สวยงามกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักอิสระพักผ่อนกันตามอัธยาศัย ได้เวลานัดหมายนำท่านนั่งรถ  GAME DRIVE เพื่อชมสัตว์ป่าต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในเขตทะเลทรายคาราอารีอาธเช่นกวางตระกูลโอริกซ์ ด้วยเขายาวเป็นเอกลักษณ์จึงถือได้ว่าเป็นสัตว์ที่มีความสวยงามและพบได้มากในแถบนี้ นอกจากนี้ยังมีนกกระจอกเทศ นกป่า นานาชนิด พร้อมกับชมพระอาทิตย์ยามอัสดงอันงดงาม

ค่ำ             

บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังมื้ออาหารนำท่านเดินทางสู่ที่พัก

ที่พัก KALAHARI ANIB LODGE HOTEL หรือเทียบเท่า***

วันที่ 4 คีมันซุป - ป่าโคเคอร์บูม - เขื่อน NAUTE DAM - แคนยอนวิลเลจ - อุทยานแห่งชาติ GONDWANA CANYON PARK

เช้า             

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ได้เวลาอันสมควรนำท่านออกเดินทางสู่คีมันซุป นำท่านชมความสวยงามแปลกตาของป่าโคเคอร์บูม ( ภาษาท้องถิ่น) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Quiver Tree ต้นไม้ทะเลทรายที่หายากอีกชนิดหนึ่ง มีลักษณะลำต้นตรงขนาดใหญ่และยังมีกิ่งก้านแตกแขนงออกมาอีกมากมายและตรงก้านจะมีใบคล้าย ๆ กับว่านหางจระเข้จนมีลักษณะ  คล้ายเป็นพุ่มไม้ด้านบน เวลามีลมพัดแรงจึงเหมือนกับต้นไม้ กำลังเต้นระบำอยู่ตลอดเวลา คนท้องถิ่นถือว่าเป็นต้นไม้แห่งความโชคดีและหายากเป็นอย่างมาก จากนั้นนำท่านเดินทางมุ่งลงใต้นำท่านแวะชมความงามของเขื่อน Naute Dam ซึ่งใช้กักเก็บน้ำจากแม่น้ำโลเวนริเวอร์เพื่อใช้ในการเกษตรในบริเวณแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญของประเทศนามิเบีย

เที่ยง          

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย           

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกันต่อ ผ่านชมทัศนียภาพอันสวยงามแปลกตาของภูเขาหินปูนสลับกับทะเลทรายสีทองทอดยาวจนสุดสายตา แวะพักระหว่างทางให้ท่านได้พักอิริยาบถพร้อมเก็บภาพอันสวยงามไปจนถึงที่พัก ในแคนยอนวิลเลจซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณที่มีทิวทัศน์อันงดงามของอุทยานแห่งชาติ Gondwana Canyon Park  อิสระให้ท่านได้พักผ่อนกับร้านอาหารซึ่งมาบาร์ที่ตกแต่งด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่สวยงามสะดุดตาหรือเลือกที่จะเดินเล่นรอบ ๆ ที่พักพร้อมรอชมพระอาทิตย์ตกดินบนจุดชมวิวของทางโรงแรม

ค่ำ              

บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  หลังอาหารนำท่านเดินทางกลับสู่ที่พัก อิสระให้ท่านพักผ่อน

พัก GONDWANA LODGE HOTEL หรือเทียบเท่า***

วันที่ 5FISH RIVER - FISH RIVER CANYON - SPRINGBOK

เช้า             

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านชมความยิ่งใหญ่ของ Fish River แคนยอน ถือได้ว่าเป็นแคนยอนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากแกรนด์แคนยอนที่สหรัฐอเมริกา โดยฟิชริเวอร์แคนยอนตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศนามิเบียเกิดจากแม่น้ำฟิชซึ่งมีความยาว 650 กิโลเมตร ไหลคดเคี้ยวตัดผ่านสถานที่แห่งนี้ซึ่งเป็นเทือกเขากว่า 500 ล้านปี จึงมีสภาพเป็นหุบผาชันขนาดใหญ่ โดยหน้าผาแต่และแห่งมีความสูงถึง 500 เมตร จากด้านบนสุดลงสู่แม่น้ำ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งของนามิเบีย อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามอลังการกันอย่างจุใจจนได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ชายแดนนามิเบีย-แอฟริกาใต้ซึ่งตรงนี้ท่านจะได้ชมความงดงามของแม่น้ำออเรนซ์ซึ่งเป็นพรมแดนกั้นระหว่างสองประเทศ

เที่ยง           

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย           

นำท่านออกเดินทางผ่านเส้นทางหลวงหมายเลข 7 อีกครั้งสู่เมือง Springbok ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ Namaqualand ในจังหวัด Northern Cape ของแอฟริกาใต้  ซึ่งเชื่อมต่อ Cape กับ  Namibia และทางด้านตะวันตกของ N14 ซึ่งเชื่อมต่อกับ Upington และ Pretoria  เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 1,007 เมตร (3,304 ฟุต) ในหุบเขาแคบ ๆ ระหว่างโดมหินแกรนิตสูงของ Klein Koperberge (Small Copper Mountains) เป็นศูนย์การค้าและการบริหารที่สำคัญสำหรับการทำเหมืองแร่ทองแดงในภูมิภาค เป็นแหล่งน้ำหลักที่สำคัญสำหรับเมืองรอบข้าง และเป็นที่ตั้งของสถานที่พักผ่อนที่โปรดปรานสำหรับนักท่องเที่ยวระหว่างเดินทางไปยังนามิเบียอีกด้วย

ค่ำ              

บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังมื้ออาหารนำท่านเดินทางสู่ที่พัก

ที่พัก SPRINGBOK INN HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่ 6นามากัวแลนด์ - VREDENDAL

เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเช้านำท่านชม “นามากัวแลนด์” (NAMAQUALAND) คือ พื้นที่แห้งแล้งที่อยู่ระหว่างสาธารณรัฐนามิเบีย (Republic of Namibia) และสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ (Republic of South Africa) โดยครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 170,000 ตารางไมล์ ทอดยาวไปตามแนวรอยต่อของทั้งสองประเทศเป็นระยะทางกว่า 600 ไมล์ (970 กิโลเมตร) โดยสิ่งที่พิเศษของนามากัวแลนด์ คือ ในช่วงฤดูร้อนสภาพพื้นที่แถบนี้จะแห้งแล้ง พื้นที่แตกแห้ง หรือไม่ก็เป็นทะเลทราย แต่ทว่าในฤดูใบไม้ผลิดูเหมือนว่าดินแดนแห่งนี้จะมีมหัศจรรย์เกิดขึ้น เนื่องจากพื้นที่แห้งแล้งเหล่านี้ได้รับน้ำฝนในปริมาณพอสมควร จนสามารถทำให้เมล็ดพันธุ์ดอกไม้กว่า 4000 ชนิด ที่อยู่ใต้ดินเริ่มแตกรากและแทงยอดขึ้นมาเป็นต้นอ่อนและผลิดอกรับหน้าฝนอย่างงดงาม แน่นอนว่าดอกไม้พืชพันธุ์บางชนิดสามารถพบได้ที่นามากัวแลนด์เท่านั้น เส้นทางดอกไม้นามากัวแลนด์ (Namaqualand Flower Route) เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิอันแสนสั้นจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมดอกไม้ที่แข่งขันกันเบ่งบานจนน่าละลานตา โดยเฉพาะกลุ่มดอกสีส้มและสีขาวรวมไปถึงดอกไม้อีกหลายร้อยชนิด

เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย
นำท่านเดินทางย้อนกลับเส้นทางเดิมสู่เมืองVREDENDAL อีกครั้ง ระหว่างทางชมทัศนียภาพอันสวยงาม พร้อมกับแวะพักระหว่างการเดินทางพร้อมเก็บภาพบรรยากาศของทิวทัศน์ที่แปลกตาด้วยภูเขาหินปูนขนาดใหญ่และพื้นที่กึ่งทะเลทรายที่มีต้นไม้ขึ้นสลับเนินหินเล็ก ๆ ไปตลอดเส้นทาง จากนั้นนำท่านสู่ภัตตาคาร

ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังมื้ออาหารนำท่านเดินทางสู่ที่พัก
ที่พัก MELKBOOMSDRIFT GUEST HOUSE หรือเทียบเท่า****

วันที่ 7ฟาเดนดัล - แคลนวิลเลี่ยน - เคลเวอร์ไวนารี่ ชิมไวน์ - เคปทาว

เช้า           

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

                  

จากนั้นนำท่านเดินทางขึ้นเหนือผ่านเส้นทางหลวงหมายเลข 7 ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญตั้งแต่ในอดีต ใช้เชื่อมต่อระหว่างประเทศแอฟริกาใต้กับนามิเบีย นำท่านผ่านที่ราบลุ่มเพาะปลูกที่สำคัญของประเทศจนไปถึงจุดสิ้นสุดรอยต่อระหว่างที่ราบและภูเขาทางตอนกลางของประเทศ ผ่านเส้นทาง Piekenierskloof pass ซึ่งเป็นถนนเชื่อมต่อทั้งสองภูมิประเทศเข้าด้วยกัน โดยถนนตรงช่วงนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยแรงงานนักโทษ 200 คนตั้งแต่ปี พ.ศ 2400 ควบคุมการก่อสร้างโดยโทมัส เบรน ซึ่งระหว่างทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามแปลกตา รวมทั้งทุ่งหญ้า ไร่องุ่น รวมถึงการเกษตรขนาดใหญ่ไปตลอดสอง  ข้างทาง  จากนั้นนำท่านสู่เมือง Clanwillian  เป็นเมืองที่อยู่ในหุบเขา Olifants River ใน Western Cape South Africa เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ ที่เกิดจากการสร้างเขื่อน  Clanwillian Dam  และเป็นพื้นที่เพาะปลูกที่สำคัญของประเทศ รอบ ๆ ท่านจะได้เห็นไร่ชา ไร่องุ่น ฟาร์มปศุสัตว์ต่าง  ๆ มากมาย รวมถึงทิวทัศอันสวยงามของทิวเขารอบ ๆ ตัวเมือง

เที่ยง         

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย           

ระหว่างทางแวะถ่ายรูปกับไร่องุ่นที่ Klawer Winery แหล่งผลิดไวน์ชื่อดังของประเทศแอฟริกาใต้  และถือได้ว่าใหญ่ที่สุดของแอฟริกาใต้ก็ว่าได้ ท่านจะได้ชมไร่องุ่นอันสวยงามสุดสายตาพร้อมทั้งแวะเลือกซื้อไวน์จากแหล่งผลิตกันตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่เมืองเคปทาวน์ตั้งอยู่ในแหลมทางใต้สุดของประเทศ เป็นเมืองท่องเที่ยวต่างอากาศ และยังมีแหลมต่างๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดีคือแหลมกู๊ดโฮป และแหลมอากุลฮาส ซึ่งตั้งอยู่ปลายใต้สุดของทวีปแอฟริกา เป็นจุดที่มหาสมุทรแอตแลนติคและมหาสมุทรอินเดียมาบรรจบกันจึงทำให้มีอากาศแปรปรวน และบริเวณเมืองริมฝั่งทะเลของเคปทาวน์นี้ เป็นเส้นทางที่น่าเที่ยวที่สุดและมีวิวทิวทัศน์ที่งดงามน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง

ค่ำ            

บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังมื้ออาหารนำท่านเดินทางสู่ที่พัก

ที่พัก GARDEN COURT VICTORA JUNCTION หรือเทียบเท่า****

วันที่ 8เคปทาว - เทเบิ้ล เมาท์เทน - ขึ้นกระเช้าหมุนรอบตัวเอง - กรุงเทพ

เช้า             

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นขึ้นสู่ เทเบิ้ล เมาท์เทน 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกทางธรรมชาติ (New 7 Wonders of Nature) ที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองเคปทาวน์ เป็นภูเขาที่มีความสูงระดับ 3563 ฟุต มีลักษณะยอดเขาตัดขวางเรียบจนดูเหมือนโต๊ะ โดยเกิดจากการยกตัวของเปลือกโลกประกอบกับการกัดกร่อนโดยลมฝน นำท่านขึ้นสู่จุดชมวิวบนยอดเขาโดย กระเช้าไฟฟ้าหมุนรอบตัวเอง (Cable Car) โดยจากจุดนี้ท่านจะสามารถมองเห็นเมืองเคปทาวน์โดยรอบได้ทั้งหมด (ทั้งนี้การนั่งกระเช้าต้องคำนึงถึงสภาพอากาศ หากมีลมแรงหรือมีพายุฝน และปิดทำการทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการ โดยจะจัดให้ขึ้นชมวิวทิวทัศน์ของเมืองบนยอดเขาอื่นแทนตามความเหมาะสม ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางเป็นสำคัญ) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบิน

13.50 น.       

ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ ET844/ET608 (13.50-21.15/22.40-12.00) แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินนานาชาติอาดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย  ä บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน ระหว่างการเดินทางท่านจะได้รับการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่ พร้อมรับการบริการอันสุดแสนประทับใจ เพลิดเพลินกับจอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่งรับชม

วันที่ 9กรุงเทพมหานคร (สนามบินสุวรรณภูมิ)

12.00 น.   

 คณะเดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารขาเข้า ชั้น 2 โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม