ทัวร์อินเดีย-เดลลี-อัคครา-แคชเมีย-ศรีนาคา

0
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ชื่อ-นามสกุล*
อีเมล*
เบอร์โทรติดต่อ*
จำนวนผู้เดินทาง*
* I agree with Terms of Service and Privacy Statement.
Please agree to all the terms and conditions before proceeding to the next step
บันทึกโปรแกรมทัวร์

Adding item to wishlist requires an account

388
Tour Details
ทัวร์อินเดีย-เดลลี-อัคครา-แคชเมีย-ศรีนาคา เยือนดินแดนภารตะ ทัชมาฮาล (Taj Mahal) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
  • พักโรงแรมระดับมาตรฐานทุกคืนตลอดการเดินทาง
  • บริการเสริมอาหารไทยทุกมื้อโดยพ่อครัวคนไทยเดินทางพร้อมคณะ
Itinerary

Day 1กรุงเทพฯ - สนามบินสุวรรณภูมิ - เดลลี - ประตูเมืองแห่งชัยชนะ - ตลาดจันปาท

08.00 น.     

คณะผู้เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณชั้น 4 บริเวณเคาน์เตอร์สายการบินสไปเจ็ท (SG) เจ้าหน้าที่ วาริต้า ทราเวล คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับท่าน

11.10 น.     

คณะออกเดินทางสู่กรุงเดลลี  ด้วยเที่ยวบินที่ SG90

14.05 น.    

คณะเดินทางถึงกรุงเดลลี เมืองหลวงของประเทศอินเดียเป็นเมืองที่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากเป็นอันดับสองของประเทศ นอกจากนั้นเมืองแห่งนี้ยังเคยเป็นศูนย์กลางของอำนาจการปกครองของอินเดียมาหลายพันปี ทั้งจากผู้ครองนครที่เป็นสุลต่านมุสลิม กษัตริย์ฮินดู โดยเฉพาะจักรพรรดิโมกุล อันเป็นช่วงของการแพร่ขยายอิทธิพลและวัฒนธรรมอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการปกครอง ภาษา ศิลปะ สถาปัตยกรรม และศาสนาอิสลาม ซึ่งส่งผลให้ที่นี่เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และอารยธรรมที่ยาวนานหลายยุคหลายสมัย จากนั้นนำท่านสู่ India Gate หรือประตูเมืองอินเดีย สิ่งก่อสร้างที่มีรูปแบบและลักษณะคล้ายคลึงประตูชัยของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถูกออกแบบให้เป็นประตูทรงโค้งที่มีความสูงถึง 42.35 เมตร โดยเซอร์เอ็ดเวิร์ด ลูตเยนส์ เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่เหล่าทหารอินเดียและอังกฤษจำนวนมากมายที่เสียชีวิตไปในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามอัฟกัน แล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1931 โดยใช้วัสดุในการก่อสร้างเป็นหินทรายแดง ส่วนตรงกลางประตูนั้นมีกระถางหินทรายแดงขนาดใหญ่ซึ่งถูกจุดไฟให้ลุกโชนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 จนกระทั่งปัจจุบัน นำท่านเดินทางไปยัง ตลาดจันปาท ซึ่งเป็นถนนสายช้อปปิ้งยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว โดยมีสินค้าหัตถกรรม และงานฝีมือพื้นเมืองต่างๆ มากมายให้ท่านได้เลือกซื้อ อาทิ ผ้าไหมอินเดีย ผ้าพันคอจากแคชเมียร์ สาหรี่ เครื่องประดับ อัญมณี ไม้จันหอมแกะสลัก และของตกแต่งบ้าน ฯลฯ จนได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ภัตตาคาร 

ค่ำ              

รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก หลังอาหารอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย

พัก ITC WELCOMES HOTEL หรือเทียบเท่า

Day 2กรุงเดลลี - ศรีนาคา - สวนชาลิมาร์ - สวนชาลิมาร์ - House Boat

เช้า

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของที่พัก จากนั้นนำท่านสู่สนามบิน

10.40 น.

ออกเดินทางสู่ ศรีนาคา โดย สายการบินสไปเจ็ท เที่ยวบินที่ SG8963

12.05 น.

คณะเดินทางถึง สนามบินศรีนาคา หลังรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ไกด์ท้องถิ่น และคนขับรถคอยต้อนรับท่าน (การเดินทางท่องเที่ยวในแคว้นแคชเมียร์ ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเพราะถนนบางช่วงต้องขึ้นเขา และผ่านเส้นทางสายชนบทซึ่งคณะของเราจะนั่งคันละ 4-5 ท่าน รถไม่มีแอร์ อุณหภูมิที่ศรีนาคาเฉลี่ยประมาณ 15 องศา อากาศจะเย็นสบายตลอดปี)

เที่ยง

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย           

จากนั้นนำท่านเดินทางไปชม สวนนิชาท์  (Nishat Garden) สวนนี้สร้างโดยจักรพรรดิอักบาร์ ทรงครองแคชเมียร์ปี ค.ศ. 1585 สวนนี้สร้างขึ้นโดยช่างฝีมือดี มีทั้งน้ำพุ สระน้ำ และลำธารอยู่ภายในมีน้ำพุ อีกทั้งยังมีทัศนียภาพระหว่างทะเลสาบดาล และเทือกเขาซาร์วัน เป็นต้นแบบในการสร้างสวนน้ำพุจำลองในราชวังของราชวงศ์โมกุลที่มี และในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนจะประดับด้วยทุ่งทิวลิป และดอกไม้นานาชนิดเป็นภาพที่สวยงามยิ่งนัก  ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางไปชม สวนชาลิมาร์ (Shalimar Garden) หรือ สวนแห่งความรัก ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าชาห์ฮังกีร์ พระราชโอรสของกษัตริย์อัคบาร์แห่งราชวงศ์โมกุลในปี ค.ศ. 1619 เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับพระนางนูร์จาฮัล มเหสีอันเป็นที่รัก อีกทั้งสวนแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่สำหรับเสด็จประทับในช่วงฤดูร้อนของพระเจ้าชาห์ฮังกีร์ รวมทั้งกษัตริย์ราชวงศ์โมกุลในอดีตด้วย โดยเฉพาะพระเจ้าซาร์เจฮาน ที่ยามสิ้นสงครามแล้วจะเสด็จมาประพาสน์เพื่อหาความสำราญกับนางอันเป็นที่รักพระนางมุมตัสมาฮาล
และพระเจ้าชาร์จาฮัล ยังนำเอาสวนแห่งนี้เป็นต้นแบบในการสร้างทัชมาฮาลอันโด่งดังอีกด้วย นำท่านเดินชมภายในสวนที่ได้รับการกแต่งด้วยดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ อาทิเช่น ดอกทิวลิป และดอกกุหลาบ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแนวกำแพงที่ปลูกด้วยดอกชบาหลากสีสัน โดยสวนชาลิมาร์มีขนาดกว้าง 539 เมตร ยาว 182 เมตร ภายในสวนมีบันไดทอดผ่านไปยังเนินด้านบนซึ่งเป็นที่ตั้งของน้ำพุที่เกิดจากแรงดันน้ำธรรมชาติที่ไหลลงมาจากภูเขา

ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของที่พัก จากนั้นอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
พักค้างคืน ณ DELUXE Houseboats หรือเทียบเท่าทุกห้องมีห้องน้ำส่วนตัว

Day 3โซนามาร์ก - ทาจิวาสกลาเซียร์ - เมืองศรีนาคา - House Boat

เช้า

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของที่พัก

นำท่านเดินทางสู่ โซนามาร์ก (Sonamarg)  (ระยะทาง 80 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ในหุบเขาซินด์ (Sindh) เป็นจุดที่มีน้ำตกที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็ง คำว่า “โซนา” แปลว่าทอง “มาร์ก” แปลว่าเส้นทาง ในอดีตเส้นทางนี้เป็นเส้นทางค้าขายในตำนานหรือที่เรียกว่า เส้นทางสายไหมเนื่องจากภูมิประเทศที่สวยงาม ตลอดทางท่านจะพบกับทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่ไต่ความสูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตของชาวชนบทแคชเมียร์ ชมป่าวอลนัตที่ปลูกเรียงรายตลอดสองข้างทาง ชมทิวทัศน์ของทุ่งหญ้าสีทอง (Meadow of gold) หรือทุ่งดอกมัสตาร์ด และชมวิวที่ราบลุ่มที่มีเทือกเขาหิมาลัยเป็นฉากหลัง ที่เรียกขานตามท้องถิ่นว่า “ทาจิวาส (Thajiwas)” ภูเขาซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดปี มีแม่น้ำสินธุลดเลี้ยวผ่านหุบเขาในอีกฟากของถนน โซนามาร์คได้รับสมญานามว่าเป็น “ประตูสู่ลาดัคห์” หรือจุด เริ่มต้นที่จะมุ่งหน้าไปยังลาดัคห์

เที่ยง

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย

นำท่านสู่จุดชมวิว กราเซียร์ (Thajiwas Glacier) ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่อายุนับพันปี สูงจากระดับน้ำทะเล 2,743 เมตร มีความยาวกินพื้นที่ภูเขาถึงสามลูกน้ำที่ละลายจากธารน้ำแข็งทำให้เกิดลำธารเล็กๆ หลายสาย ทำให้บริเวณนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นสนขนาดใหญ่อายุนับร้อยปี และบริเวณหุบเขาโซนามาร์กนี้มีธารน้ำแข็งสีขาวบริสุทธิ์ที่ปกคลุมอยู่ตามลาดไหล่เขา อีกทั้งเทือกเขาหิมะยามที่สะท้อนแสงแดดเป็นประกายสีทองจึงเป็นที่มาของชื่อ โซนามาร์ก นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวยิปซีที่มีอาชีพเลี้ยงสัตว์อยู่เป็นจำนวนมาก นำท่านชมบ้านของชาวยิปซีที่สร้างด้วยดิน และไม้สนขนาดใหญ่ สัมผัสวิถีชีวิตของขาวยิปซีที่มีชีวิตโดยอาศัยธรรมชาติเป็น จากนั้นให้ท่านได้เก็บภาพบรรยากาศอันสวยงามกันตามอัธยาศัยหรือเลือกขี่ม้าเข้าไปชมธารน้ำแข็งแบบใกล้ชิด (***ไม่รวมค่าบริการขี่ม้าประมาณ 1,000-1,200 บาท***) หรือหากท่านไหนไม่ต้องการขี่ม้าบริเวณโรงแรมยังมีร้านน้ำชาเล็กๆ บรรยากาศดีให้ท่านได้นั่งจิบชาพร้อมชมบรรยากาศ หรือเลือกซื้อของผากของที่ระลึกกันตามอัธยาศัย ถึงเวลานัดหมายนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองศรีนาคา

ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของที่พัก จากนั้นอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
พักค้างคืน ณ DELUXE Houseboats หรือเทียบเท่าทุกห้องมีห้องน้ำส่วนตัว

Day 4กุลมาร์ค - เคเบิลคาร์ - ยอดเขาอัฟฟาร์วัต - ศรีนาคา - House Boat

เช้า

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของที่พัก

ออกเดินทางสู่ กุลมาร์ค (Gulmag) ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองศรีนาคาประมาณ 58 กิโลเมตร กุลมาร์ค เป็น ภูเขาที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในแคชเมียร์ เดิมเรียกเการิมาร์ค คณะเดินทางสู่ สถานีเคเบิลคาร์ (Gondola station) จากนั้นนำท่านนั่ง กระเช้าไฟฟ้า ขึ้นไปยัง สถานีกงโดรีบนเขาอัฟฟาร์วัต เฟสที่ 1 ด้วยระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร (***หากท่านต้องการขึ้นสู่ยอดเขาจะต้องนั่งเคเบิ้ลคาร์ ที่เฟสที่ 2 ขึ้นสู่ยอดเขาเป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร ท่านสามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานีเฟสที่ 1 ท่านละ 2,000 รูปี ไม่รวมในค่าทัวร์***) ซึ่งถือได้ว่าเป็นเส้นทางที่สวยที่สุด และสูงที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย เมื่อเดินทางถึงที่หมายสิ่งที่ท่านจะได้พบคือบรรยากาศ และทัศนียภาพแบบพาโนรามาอันสวยงามบน ยอดเขาอัฟฟาร์วัต (Affarwat) ถ้าท้องฟ้าแจ่มใสก็จะสามารถมองเห็นยอดเขานันกา พาร์บัต (Nanga Parbat) ของเทือกเขาหิมาลัย อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมมากมาย อาทิเช่น เล่นสกี เลื่อนสกีหิมะ ท่านสามารถเล่นสกีได้  ระหว่างช่วงฤดูหนาว-ใบไม้ผลิ (ธันวาคม-เมษายน) ซึ่งค่าเล่นสกีนี้จะไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์ จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักสกี รีสอร์ท ตั้งอยู่ท่ามกลางผืนป่า และพรรณไม้อันเขียวชอุ่มมองเห็นทิวทัศน์ยอดเขาอัฟฟาร์วัต ซึ่งปกคลุมด้วยหิมะบริเวณเทือกเขา Pir Piran ในแคว้นหิมาลายัน

เที่ยง

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองศรีนาคา เข้าสู่โรงแรมที่พักแบบ บ้านเรือ (House Boat)  จากนั้นอิสระพักผ่อนกับบรรยากาศอันสุดแสนโรแมนติกของบ้านเรือ ซึ่งถือกำเนิดขึ้นมาในสมัยที่ดินแดนแถบนี้ยังมีอังกฤษเป็นเจ้าประเทศอาณานิคมอยู่ แต่ชาวอังกฤษเหล่านี้ไม่มีสิทธิ์ถือครองที่ดิน พวกเขาจึงได้สร้างเรือเอาไว้เป็นที่พักอาศัยแทน เมื่อได้รับเอกราชแล้วเรือเหล่านี้ก็ถูกแปรสภาพมาเป็นโรงแรม และบ้านพักไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว

ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของที่พัก จากนั้นอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
พักค้างคืน ณ DELUXE Houseboats หรือเทียบเท่าทุกห้องมีห้องน้ำส่วนตัว

Day 5ศรีนาคา - ทะเลสาบดาล - ล่องเรือซิกคารา - เดลลี - อัครา

เช้า             

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของที่พัก

นำท่านชมทะเลสาบที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประพาสน์ของพระมหากษัตริย์ผู้สร้างอนุสรณ์สถานแห่งความรัก Taj Mahal มาพักผ่อนกับคนที่เป็นที่รักพระนางมุมตัส มาฮาล ในปัจจุบันเมืองศรีนาคาเปรียบเสมือนเป็นสวรรค์บนดินสำหรับคู่ฮันนีมูน หรือท่านที่รักธรรมชาติใฝ่ฝันที่จะเดินทางไปสัมผัสแม้เพียงครั้งหนึ่งในชีวิต นำท่านล่องเรือซิกคารา Shikara ชมชีวิตชาวน้ำ พืชดอกไม้น้ำ ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะตัดกับท้องฟ้าสีน้ำเงิน ทะเลสาบอันแสนสวยงามท่านจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวแคชเมียร์ที่มีความผูกพันธ์กับทะเลสาบแห่งนี้อย่างใกล้ชิด หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินศรีนาคา 

เที่ยง          

บริการอาหารกลางวัน (SET BOX)

12.40 น.     

ออกเดินทางสู่ กรุงเดลลี โดย สายการบินสไปเจ็ท เที่ยวบินที่ SG8961

14.10 น.     

คณะเดินทางถึง สนามบินนานาชาติอินทิรา คานธี-กรุงเดลลี หลังรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองอัครา (Agra) โดยใช้ทางด่วนพิเศษซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อเดือนพฤษภาคมปี ค.ศ. 2012 ใช้สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางสู่เมืองอัครา สถานที่ตั้งของทัชมาฮาลอันโด่งดัง ระหว่างทางผ่านชมทัศนียภาพชนบทของชาวอินเดีย สัมผัสความเป็นอยู่บ้านเรือนท้องนาหรือแปลงเกษตรต่างๆ โดยดินแดนบริเวณนี้ถือได้ว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของอาณาจักรต่างๆ ที่อยู่ในอินเดียมานับพันปี โดยเฉพาะราชวงศ์โมกุลจึงมีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

ค่ำ             

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ภายในโรงแรมที่พัก

พักค้างคืน ณ GRAND MERCURE HOTEL หรือเทียบเท่า

Day 6อัครา - ทัชมาฮาล - ป้อมอัครา -สุสานแห่งจักรพรรดิอักบาร์ม - เดลลี

เช้า             

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางไปบริเวณริมฝั่งแม่น้ำยมนา อันเป็นที่ตั้งของ ทัชมาฮาล (Taj Mahal) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมนา สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว และหินทรายสีแดงประดับประดาด้วยรัตนชาติ หินมีค่าหลากหลายชนิด ใช้เวลาในการสร้างถึง 22 ปี เพื่อแสดงถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของ พระเจ้าซาร์ จาฮาน ต่อ พระมเหสีมุมตัส มาฮาล ที่สวรรคต เนื่องจากการให้กำเนิดบุตรคนที่ 14ภายในทัชมาฮาลนั้น เป็นที่เก็บพระศพของพระมเหสีมุมตัสมาฮาล และกษัตริย์ซาร์จาฮาน ท่านจะตะลึงกับความสวยงาม ความละเมียดละไม บรรจงสร้างประดับตกแต่งด้วยงานฝีมือที่ละเอียด แบบหาชมที่ไหนไม่ได้ เชิญท่านสัมผัสความยิ่งใหญ่อลังการของทัชมาฮาล และสวนโดยรอบในมุมต่างๆ ที่สวยงาม จากนั้นนำท่านชม ซิกานดา หรือ สุสานแห่งจักรพรรดิอักบาร์ม ที่ซึ่งพระองค์ได้สร้างขึ้นเองด้วยหินทรายสีแดง เพื่อเป็นที่บรรจุศพของพระองค์ บนยอดสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว

เที่ยง           

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร              

บ่าย            

ได้เวลาสมควรนำท่านเข้าชมป้อมปราการประจำเมือง ป้อมอัครา (Agra Fort) เป็นป้อมปราการที่ยิ่งใหญ่ใช้เวลาในการสร้างยาวนานถึงสามยุคสมัยของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์โมกุล มีลักษณะเป็นกำแพงสองชั้น และป้อมอาคารทางเข้าสี่ทิศ ภายในประกอบด้วยพระราชวัง มัสยิด สวนดอกไม้ สนาม และอาคารทางเดินโดยรอบ จุดเด่นของอัคราฟอร์ทคือ ชาฮังกีร์ มาฮาล อาคารสีแดงจากหินทรายซึ่งจักรพรรดิอัคบาร์ สร้างประทานให้แก่มเหสีฮินดู จอร์ฮาบาย ชมห้องโถงใหญ่ที่สวยงาม, กาซ มาฮาล และ Palace of  mirrors. พอร์มารค์ มัสยิดสีขาวสะอาด และนักร่ามัสยิด สถานที่โอรสคุมขังกษัตริย์ซาร์จาฮาน ผู้สร้างทัชมาฮาล และเป็นจุดที่พระองค์ทรงใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตมองผ่านแม่น้ำยมนา ไปเห็นทัชมาฮาลที่ซึ่งมเหสีสุดที่รักของพระองค์ประทับอยู่อย่างนิรันดร์ จากนั้นให้ท่านมีเวลาเก็บภาพบรรยากาศอันสวยงามกันตามอัธยาศัย จากออกเดินทางกลับสู่ กรุงนิวเดลลี (New Delhi) เมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของอินเดีย และมีประชากรมากเป็นอันดับสองของประเทศ นอกจากนั้นเมืองแห่งนี้ยังเคยเป็นศูนย์กลางของอำนาจการปกครองของอินเดียมาหลายพันปี ทั้งจากผู้ครองนครที่เป็นสุลต่านมุสลิม กษัตริย์ฮินดู และจักรพรรดิโมกุล อันเป็นช่วงของการแพร่ขยายอิทธิพล และวัฒนธรรมอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการปกครอง ภาษา ศิลปะ สถาปัตยกรรม และศาสนาอิสลาม ซึ่งส่งผลให้ที่นี่เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ และอารยธรรมที่ยาวนานหลายยุคหลายสมัย มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 5,000 ปี และเป็นศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรอินเดียโบราณ 7 อาณาจักร ต่อมาในปี 1857 อังกฤษได้เข้ามามีบทบาทในการปกครองประเทศอินเดีย และได้ย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่โกลกัตตา และได้ย้ายกลับมาเป็นเมืองหลวงอีกครั้งหนึ่งในปี 1911 หลังจากอินเดียได้รับเอกราชจากประเทศอังกฤษในปี 1947 ก็ได้มีการสร้างสถานที่ทำการราชการโดยสร้างเมืองใหม่ชื่อว่า “นิวเดลลี” ผ่านชมรัฐสภาราชปาติ บาวาล ซึ่งเป็นวงแหวนสถานที่ราชการต่างๆ มีตึกรัฐสภาอันยิ่งใหญ่ และเป็นที่ทำการของรัฐบาล ผ่านชมย่านธุรกิจการค้าและย่านที่อยู่อาศัยของเศรษฐีอินเดียบนถนนสายสำคัญที่สุดของอินเดีย

ค่ำ              

บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติอินทิรา คานธี-กรุงเดลลี

21.05 น.         

ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ SG87

DAY 7สนามบินสุวรรณภูมิ

03.00 น.      คณะเดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ