เดลลี-อชันต้า-เอลโลร่า-มุมไบ 5 วัน 4 คืน
เยือนดินแดนแห่งศรัทรา มหัศจรรย์ถ้ำมรดกโลก ถ้ำอชันต้า ถ้าที่เก่าแก่ที่สุด และ ถ้ำเอลโลร่า พลังแห่งศรัทราของ 3 ศาสนามารวมกัน
08.30 น.
พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณชั้น 4 บริเวณเคาน์เตอร์สายการบินอินดิโก้ (6E) เจ้าหน้าที่ วาริต้า ทราเวล คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับท่าน
10.30 น.
คณะออกเดินทางสู่เมืองออรังกาบัด ด้วยเที่ยวบินที่ 6E1068/6E7159 (1030-1230/1920-2045) แวะผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และรอเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินไฮเดอราบาด ประเทศอินเดีย
20.45 น.
คณะเดินทางถึง เมืองออรังกาบัด จากนั้นนำคณะสู่ภัตตาคารภายในโรงแรมที่พัก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก หลังอาหารพักผ่อนตามอัธยาศัย
พัก THE FERN RESIDENCY HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรมที่พัก
หลังอาหารเช้านำท่านเดินทางสู่ บิบิ กา มัคบาร่า (Bibi Ka Maqbara) หรือ ทัชมาฮาลน้อยเพราะมีลักษณะสถาปัตยกรรมคล้ายทัชมาฮาล สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรัก โดยพระโอรสของออรังเซบ ทรงสร้างเพื่อรำลึกถึงพระมารดา ได้เวลาสมควรออกเดินทางสู่ ถ้ำอชันตา วัดถ้ำในพุทธศาสนาที่งดงามและเก่าแก่ที่สุดในโลก สร้างเมื่อ พ.ศ.350 โดยพระภิกษุในสมัยนั้นได้ค้นพบสถานที่แห่งนี้ เห็นว่าเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมกรรมฐานเป็นอย่างยิ่ง จึงได้เจาะภูเขาเพื่อสร้างเป็นกุฏิ โบสถ์ วิหาร ฯลฯ เพื่ออาศัยอยู่อย่างสันโดษ เนื่องจากเป็นสถานที่ห่างไกลผู้คน ทำให้ประวัติศาสตร์หน้าต่อมาของ ศาสนาพุทธในอินเดีย ได้ปรากฏขึ้นในหมู่ถ้ำบริเวณฝั่งตะวันตกของที่ราบสูงเดกกัน เมืองออรังกาบาด รัฐมหาราษฎร์ แห่งนี้
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ภายใน ถ้ำอชันตา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปีค.ศ.1983 ความงดงามและอลังการของสถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นจากความศรัทธาในพระพุทธศาสนา โดยขุดเจาะภูเขาเป็นสังฆรามขนาดใหญ่แบบศิลปะคุปตะและหลังคุปตะอันวิจิตร ถ้ำอชันตาประกอบไปด้วยถ้ำ 28 ถ้ำ มีอายุกว่า 2,000 ปี เป็นพุทธสถานที่สร้างจากการสกัดหน้าผา หินเข้า ไปในเขาเหนือแม่น้ำวโฆระ แต่เดิมเป็นศูนย์กลางสำนักปฏิบัติของเหล่าสงฆ์ในพุทธศาสนาราวพุทธศตวรรษที่ 7-13 ก่อนถูกทอดทิ้งให้รกร้างกลางป่าจึงรอดพ้นจากการทำลายล้างจากกองทัพผู้รุกราน จนมาถูกค้นพบอีกครั้งโดยบังเอิญจากนายทหารอังกฤษในศตวรรษที่ 19 ภายในถ้ำท่านจะได้ชมงานแกะสลักเสาอันงดงามและวิจิตรบรรจง รวมถึงพระพุทธรูปและเจดีย์ศิลาที่สกัดและตกแต่งขึ้นจากหินเนื้อเดียวกันกับพื้นผนังถ้ำยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอายุกว่า 1,200 ปี มีความงดงามสมบูรณ์ด้วยเทคนิคการเขียนภาพสามมิติ ภาพสีเฟรสโก้อันน่าอัศจรรย์ พระพุทธรูปศิลา ที่แสดงอารมณ์พระพักตร์ต่างกันเมื่อแสงตกสะท้อนจากต่างมุมถ้ำอชันตาเป็นถ้ำที่ผสมผสานระหว่างศิลปะแบบพุทธและฮินดูเข้าด้วยกันอย่างลงตัว จากนั้นนำท่านชม ป้อมเดาลาตาบัด แปลว่า เมืองแห่งความมั่งคั่ง เป็นป้อมในศตวรรษที่ 14 ป้อมปราการโบราณถูกโอบล้อมด้วยภูเขาดัลคีรี เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางคาราวาน ตำนานเล่าว่าเมืองนี้สร้างขึ้นโดยดันการ์ เมื่อ ค.ศ.1203 หลังจากนั้นถูกสุลต่านเดลีชาวมุสลิมอลาอุดดินคิลจิยึดได้ใน ค.ศ.1294 เดวากิรีกลายเป็นเมืองสำคัญในสมัยของสุลต่านมูฮัมมัดดินตุ๊คลัคในปีค.ศ.1327 พระองค์ทรงตั้งเป็นเมืองหลวงและเปลี่ยนชื่อจาก เดวากิรี เป็น เดาลาตาบัด จวบจนถึงสมัยของโมกุล หลังจากนั้นจึงถูกถูกทิ้งร้างเพราะย้ายไปสร้างเมืองออรังกาบัดแทน
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก หลังอาหารพักผ่อนตามอัธยาศัย
พัก THE FERN RESIDENCY HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ หมู่ถ้ำเอลโลร่า หนึ่งในสถานที่ที่สวยงามจนติดอันดับมรดกโลก ท่านจะได้ สัมผัสความใหญ่โตมหึมาของศาสนสถานหินเอลโลร่า อันสวยสดงดงาม และขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1983 ด้วยถ้ำมหัศจรรย์นี้ถูกสร้างโดยการขุดเจาะหน้าผาเข้าไปเป็นแนวตรงระหว่างศตวรรษที่ 6-10 ปลายสมัยราชวงศ์รัชตคุต ถ้ำเอลโลร่า ประกอบไปด้วยถ้ำทั้งหมด 34 ถ้ำ แบ่งเป็น
พุทธสถาน 12 ถ้ำ เทวสถานในศานาฮินดู 14 ถ้ำ และศาสนสถานของเชน 8 ถ้ำ ชมเทวสถานไกรลาส ในศาสนาฮินดู ซึ่งแกะสลักภูเขาทั้งลูกให้เป็นปราสาทหินศิลปะอินเดียใต้ สลักลวดลายเป็นรูปเทพเจ้าต่างๆ อย่างงดงามเหนือจิตนาการ
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่ วัดฆฤษเณศวร เป็นหนึ่งในวัดสำคัญของออรังกาบัด ห่างจากถ้ำอิโลร่าไปไม่ถึง 1 กิโลเมตร ถูกสร้างเพื่ออุทิศให้กับพระศิวะที่อ้างอิงในพระอิศวรปุรณะ ชื่อของวัดมีภาษาถิ่นที่แปลว่าเจ้าแห่งความเมตตา วัดนี้ยังเป็นสถานที่แสวงบุญที่สำคัญในประเพณี Shaiva ของศาสนาฮินดู จากนั้นนำท่านสู่ วัด Bhadra Maruti เป็นวัดฮินดูที่สร้างเพื่ออุทิศให้กับศาสนาฮินดูเทพหนุมาน ตั้งอยู่ห่างไปสี่กิโลเมตรจากถ้ำอิโลร่า ภายในวัดแห่งนี้มีรูปเคารพของหนุมานที่ถือเป็นเทพเจ้าเคารพหลักของวัดนี้ ทุกๆ วันวัดนี้จะเต็มไปด้วยเหล่าศาสนิกชนมากราบไหว้บูชาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันเสาร์ในช่วงเดือน “Sharavan” ตามปฏิทิน Marathi
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก หลังอาหารพักผ่อนตามอัธยาศัย ได้เวลานัดหมายนำท่านเดินทางสู่สนามบิน
21.25 น.
คณะเดินทางออกจากสนามบินเมืองออรังกาบัด สายการบินอินดิโก้ (6E) เที่ยวบินที่ 6E6569
22.20 น.
คณะเดินทางถึง เมืองมุมไบ จากนั้นนำคณะสู่ภัตตาคาร
ã พัก THE FERN RESIDENCY HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ ประตูสู่อินเดีย (Gateway of India) ซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำในย่าน อพอลโลบันเดอร์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในโอกาสที่พระเจ้าจอร์จที่ 5 และพระราชินีแมรี่เสด็จมาร่วมงานเดลีดารบัร ในปี 1911 วัสดุที่ใช้สร้างเป็นหินทรายสีน้ำผึ้ง ยามเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นและตกแสงอาทิตย์จะทาบทาลงมา ทำให้ประตูเปลี่ยนสีจากทองเป็นส้ม และจากส้มเป็นชมพูสวยงามมาก กองกำลังอังกฤษชุดสุดท้ายเดินทางออกจากอินเดียผ่านใต้วงโค้งของประตูแห่งนี้ได้เวลาสมควรนำชม สถานีรถไฟวิคทอเรียเทอร์มินัส หรือชื่อเดิม วิคตอเรียเทอมินาส ที่ได้รับการตั้งชื่อตามพระนามพระราชินีวิคตอเรีย ก่อสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกกรรมแบบวิคตอเรียโกธิค ผสมผสานกับงานศิลปะแบบอินเดีย อันทรงคุณค่าจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านสักการะ องค์ศรีสิทธิวินายัก (Siddhivinayak) ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองมุมไบ พระพิฆเนศวรคู่เมืองมุมไบ ที่มีชื่อเสียงที่สุดของอินเดีย นับถือกันว่าเป็นองค์ประธานของเทวรูปพระพิฆเนศทุกองค์ในโลก โดยองค์เทวรูป มีขนาดความสูง 75 เซนติเมตร และหน้าตักกว้าง 60 เซนติเมตร โดยงวงหันไปทางขวา ซึ่งมีความหมายว่าให้พรสมปรารถนาที่ทันใจ แต่ผู้สักการะนั้นต้องเป็นผู้ที่เคร่งครัดในการสวดภาวนา โดยด้านข้างขององค์เทวรูปจะปรากฏพระมเหสี 2 พระองค์ คือพระนางสิทธิ และพระนางพุทธะ ประทับอยู่ทั้ง 2 ด้านจากนั้นให้ท่านเลือกซื้อสินค้าของฝาก ณ. แหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญของเมืองมุมไบ ย่านโคลาบา (Colaba Causeway) เพียบพร้อมไปด้วยสินค้าหลากหลายชนิด เช่นเครื่องประดับ เพชรพลอย เสื้อผ้า และเครื่องหนัง โดยแต่ละส่วนจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก หลังอาหารพักผ่อนตามอัธยาศัย
พัก Radisson Blu HOTEL หรือเทียบเท่า
05.30 น.
รับประทานอาหารเช้า (SEXBOX) ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินมุมไบ
08.35 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ 6E1051
14.30 น.
คณะเดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความประทับใจมิรู้ลืม