ทัวร์ฝรั่งเศส-สวิตเซอร์แลนด์-อิตาลี 9 วัน 6 คืน EK

0
Price
ราคาเริ่มต้น 121,900
Price
ราคาเริ่มต้น 121,900
ชื่อ-นามสกุล*
อีเมล*
เบอร์โทรติดต่อ*
จำนวนผู้เดินทาง*
* I agree with Terms of Service and Privacy Statement.
Please agree to all the terms and conditions before proceeding to the next step
บันทึกโปรแกรมทัวร์

Adding item to wishlist requires an account

2399
Tour Details
  • โรงแรมระดับมาตรฐานสากลระดับ 4 ดาว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
  • รถโค้ชปรับอากาศมาตรฐาน พร้อมคนขับที่ชำนาญเส้นทาง
  • รายการทัวร์จัดให้แบบสบายๆ ค่อยๆ ไปทีละเมือง…ไม่เร่งรีบ
  • หัวหน้าทัวร์ที่มีประสบการณ์ มีความรับผิดชอบสูง ให้บริการ และอำนวยความสะดวกอย่างใกล้ชิด

Itinerary

วันที่ 1กรุงเทพมหานคร - กรุงปารีส ( ฝรั่งเศส )

18.30 น.     

คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินเอมิเรสต์ (ek)  เจ้าหน้าที่ วาริต้า ทราเวล คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและบัตรที่นั่ง

21.35 น.   

ออกเดินทางสู่ กรุงปารีส โดยเที่ยวบินที่ EK373/EK071 (21.35-00.50/04.05-09.25) แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ä บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน ระหว่างการเดินทางท่านจะได้รับการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่ พร้อมรับการบริการอันสุดแสนประทับใจ พร้อมความบันเทิงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์นานาชาติ เพลงสากล สารคดี ช่องกีฬาต่างๆ รวมถึงการ์ตูนสำหรับคุณหนูๆ

วันที่ 2กรุงปารีส - พระราชวังแวร์ซายส์ - พิพิธภัณฑ์ลูฟฟ์ - ล่องแม่น้ำแซน

09.25 น.       

คณะเดินทางถึง สนามบินปารีสชาร์ลส์ เดอ โกล จากนั้นนำท่านผ่านพิธีการทางสนามบินและรับกระเป๋าสัมภาระ ไกด์ท้องถิ่น และคนขับรถผู้ชำนาญเส้นทาง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ภัตตาคาร

เที่ยง         

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย               

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางเข้าชม พระราชวังแวร์ซายส์ (VERSAILLES PALACE) พระราชวังที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นสถานที่ที่ใหญ่ที่สุดในปฐพี ชมความอลังการของพระราชวัง ซึ่งได้รับการตกแต่งไว้อย่างหรูหราวิจิตรบรรจง ชมความงดงามของห้องต่างๆ อาทิเช่น ห้อง อพอลโล, ห้องนโปเลียน, ห้องบรรทมของราชินี, ห้องโถงกระจกท้องพระโรง, ห้องสงครามและสันติภาพ รวมถึง  เรื่องราวและความเป็นมาของอดีตอันยิ่งใหญ่ของพระราชวังแห่งนี้ อิสระให้ท่านได้ชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกบริเวณต่างๆ  อันร่มรื่นและหลากหลายด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับสีสันสวยงาม ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์ลูฟฟ์ (LOUVRE MUSEUM) เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้เมื่อปี ค.ศ. 1793 มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์กาเปเซียง ตัวอาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวง โดยแรกเริ่มลูฟร์เป็นพระราชวังสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าฟีลิปที่ 2 ในปี ค.ศ. 1190 จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือ PONT DE L’ALMA เพื่อนำท่าน ล่องแม่น้ำแซน โดยเรือบาโตมูซ (BATEAUX MOUCHE) ชมสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมือง ชมความงดงามของโบราณสถานและอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตามสไตล์ของศิลปะเรอเนสซองส์ ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ดูแลเป็นอย่างดี ตลอดเส้นทางท่านจะได้รับชมความสวยงามของทัศนียภาพที่ร่วมกันสรรสร้างให้นครปารีสได้ชื่อว่าเป็นนครที่มีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ประกอบไปด้วย สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3,ศาลาว่าการ, จัตุรัสคองคอร์ด, โรงกษาปณ์, เกาะอิลเดอลาซิเต้ ศูนย์กลางเมืองแห่งแรก สถานที่ตั้ง มหาวิหารนอเตรอดาม สร้างด้วยศิลปะแบบโกธิกที่ประดับตกแต่งด้วยกระจกสีอย่างงดงาม ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นสถานที่สำหรับพิธีราชาภิเษกนโปเลียนขึ้นครองราชย์ มีอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี และ พระราชวังกองแซร์เจอรี วังทรงชาโต้ และเรือนจำหลวง ซึ่งเคยเป็นที่คุมขังพระนางมารี อังตัวแนตต์ ฯลฯ

ค่ำ               

รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคาร

พักค้างคืน MERURE PARIS VELIZY หรือเทียบเท่า ****

วันที่ 3กรุงปารีส - ชมกรุงปารีส - ห้างลาฟาแยตต์ - นั่งรถไฟ TGV - เมืองสตราสบูร์ก - ชมเมืองเก่า

เช้า              

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านชมเมือง จัตุรัสคองคอร์ด หรือ ปลัส เดอ ลา กงกอร์ (PLACE DE LA CONCORDE) เป็นจัตุรัสที่กว้างขวางที่สุดในกรุงปารีส จัตุรัสแห่งนี้ เป็นสถานที่แห่งความทรงจำทางประวัติศาสตร์ การนองเลือดครั้งใหญ่ในกรุงปารีส เป็นสัญลักษณ์ของสงครามกลางเมืองและการปฏิวัติการปกครองของฝรั่งเศส โดยสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 เพื่อประดิษฐานพระบรมรูปทรงม้า สถาปนิกผู้ออกแบบ คือ JACQUES ANGE GABRIEL แล้วเสร็จในปี ค.ศ.1755 จากนำท่านถ่ายรูปที่ระลึกกับ หอไอเฟล (EIFEL TOWER) และประตูชัยฝรั่งเศส (THE ARC DE TRIOMPHE) เป็นอนุสรณ์สถานสำคัญแห่งกรุงปารีส ตั้งอยู่กลางจัตุรัสชาร์ลส์ เดอ โกลล์ หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม จัตุรัสแห่งดวงดาว อยู่ทางทิศตะวันตกของชองป์-เซลิเซ่ส์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นการสดุดีถึงวีรชนทหารกล้าที่ได้ร่วมรบเพื่อประเทศฝรั่งเศส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสงครามนโปเลียน และในปัจจุบันยังเป็นสุสานของทหารนิรนามอีกด้วย โดยเป็นประตูชัยที่ใหญ่รองเป็นอันดับ 2 ของโลกที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน แบบของประตูชัยฝรั่งเศสนี้ได้แนวความคิดมาจากประตูชัยไตตัสแห่งกรุงโรม สมควรแก่เวลานำท่านสัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยนักช้อปปิ้งจากทั่วทุกมุมโลก  ในห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางกรุงปารีส ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์  (GALERIES LAFAYETTE) ซึ่งมีสินค้าแบรนด์เนมทุกยี่ห้อรวมถึง LOUISE VUITTON อิสระให้ท่านเที่ยวชมร้านค้า เลือกชม และเลือกซื้อสินค้าของฝากของที่ระลึกตามอัธยาศัย

เที่ยง              

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย               

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟ TRAIN À GRANDE VITESSE เป็นระบบรถไฟความเร็วสูงที่ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 320 กิโลเมตร/ชั่วโมง และครอบคลุมเมืองหลายแห่งในฝรั่งเศสและยุโรป  มากกว่า 200 แห่ง ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบายตลอดการเดินทางจนถึง เมืองสตราสบูร์ก (STRASBOURG) เมืองมรดกโลกด้านมนุษยชาติขององค์การยูเนสโก เป็นเมือง   หลวงแห่งแคว้นอัลซาส (ALSACE) แห่งฝรั่งเศส เป็นเมืองที่เรียกได้ว่ามี 2 วัฒนธรรม คือ ฝรั่งเศสและเยอรมนี เนื่องจากผลัดกันอยู่ภายใต้การปกครองของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา โดยเมืองสตราสบูร์กยังเป็นที่ตั้งขององค์กรสำคัญของยุโรป เช่น สภายุโรป องค์กรสิทธิมนุษยชน และศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป สตราสบูร์กเป็นเมืองใหญ่ที่มีสถาปัตยกรรมสมัยโบราณเป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ให้ชาวเมืองปัจจุบันได้ชื่นชม และยังเป็นเมืองมหาวิทยาลัย จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม รัฐสภายุโรป (EUROPEAN PARLIAMENT) คือ สถาบันหนึ่งของสหภาพ  ยุโรป (EU) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนในสหภาพยุโรป ทำหน้าที่ร่วมกับคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (COUNCIL OF THE EUROPEAN UNION) ในการออกกฎหมายของสหภาพยุโรป จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จัตุรัส PLACE DE LA REPUBLIQUE เป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ด้านวัฒนธรรมของเมืองสตราซ์  บูร์ (STRASBOURG) เนื่องจากเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเมืองเก่าและเมืองใหม่ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่จะมอบความรื่นรมย์ผสมไปกับการเดินเล่นในดินแดนประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและเรื่องราวที่น่าสนใจได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมนำท่านเยี่ยมชม สถานีกลาง (GARE CENTRALE) ของเมืองสตราซ์บูร์ เป็นสถานีรถไฟที่สำคัญ และเป็นศูนย์กลางการเดินทางรถไฟภายในเมืองและรถไฟระหว่างเมือง

ค่ำ                

รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคาร

พักค้างคืน AC HOTEL BY MARRIOTT STRASBOURG HOTEL หรือเทียบเท่า ****

วันที่ 4เมืองสตราสบูร์ก - เมืองชาฟฟ์เฮาเซ่น (สวิส) - น้ำตกไรน์ - เมืองซูริค - ชมเมือง - เมืองอินเทอร์ลาเก้น

เช้า                

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองชาฟฟ์เฮาเซ่น (SCHAFFHAUSEN) พร้อมนําท่านเที่ยวชมและสัมผัสความงามของ น้ำตกไรน์ (RHINE FALLS) น้ำตกที่มีขนาดใหญ่และสวยที่สุดในยุโรป น้ำสีเขียวมรกตใส  ไหลอย่างเชี่ยวกราด ทำให้เกิดฟองขาวแตกกระเซ็นยามกระทบกับแก่งหิน ละอองน้ำที่กระจายปกคลุมไปทั่ว จนเกิดภาพที่งดงาม สูดอากาศบริสุทธิ์และสัมผัสต้นไม้ใหญ่เรียงรายมากมาย

เที่ยง             

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย               

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยัง เมืองซูริค (ZURICH) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์  ศูนย์กลางทางธุรกิจ วัฒนธรรม และการคมนาคมทั้งทางทางบกและการจราจรทางอากาศ เป็นศูนย์กลางการซื้อขายแลกเปลี่ยนทองคำ และตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก จากการสำรวจในปี ค.ศ. 2006-2008 โดยเมืองซูริคได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองที่มี “คุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในโลก” เป็นเมืองเก่าที่ตั้งขนาบข้างด้วยแม่น้ำลิมมัทที่ไหลมาจากทะเลสาบทางทิศเหนือ เมืองนี้ยังประกอบไปด้วยโบสถ์เก่าแก่ น้ำพุ ถนนหิน อาคารต่างๆ ที่มีอายุมากกว่า 700 ปี บ้านเรือน และร้านค้าเล็กๆ มากมาย พร้อมนำท่านชมเมืองและสถานที่ต่างๆ อาทิเช่น ถนนบานโฮฟซตราเซอร์ (BAHNHOFSTRASSE) เป็นถนนการค้าเก่าแก่ความยาว 1.4  กิโลเมตร ทอดตัวผ่านศูนย์กลางของเมืองซูริก ย่านการค้าบริเวณนี้รุ่งเรืองมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ในอดีตมีชื่อเรียกว่า FRÖSCHENGRABEN ถือเป็นศูนย์กลางหลักของเมืองซูริค ตลอดสองข้างทางนั้นเรียงรายไปด้วยห้างสรรพสินค้า และมีร้านค้าแบรนด์เนมระดับโลกมากมาย อาทิ BURBERRY, BVLGARI, CARTIER, CHANEL, DIOR, GIORGIO ARMANI, GLOBUS, GUCCI, HERMÈS, LOUIS VUITTON, PRADA และอื่นๆ อีกจำนวนมาก จนได้ชื่อว่าเป็น “ถนนช้อปปิ้งที่แพงที่สุดในโลก” โดยมีการจัดอันดับให้ บานโฮฟสตราเซอร์ เป็นย่านการค้าขายที่แพงที่สุดในทวีปยุโรป และจากการจัดอันดับเมื่อปี ค.ศ. 2016 ถนนสายนี้ก็อยู่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก จากนั้นนำท่านชม ศาลากลาง (RATHAUS) เป็นอาคารของรัฐบาลท้องถิ่น และ ทะเลสาบซูริค (ZURICH LAKE) ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองซูริก เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและสวยงามที่สุดของประเทศ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางต่อไปยัง เมืองอินเทอร์ลาเก้น (INTERLAKEN) เมืองท่องเที่ยวเมืองหนึ่งของสวิสแลนด์ที่ได้ชื่อว่ามีบรรยากาศและภูมิประเทศสงบสวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง เนื่องจากตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทะเลสาบ 2 แห่ง คือ ทะเลสาบทูนและทะเลสาบเบรียนส์ แวดล้อมไปด้วยน้ำจากทะเลสาบ น้ำตกที่เกิดจากหิมะละลายไหลลงมาจากขุนเขา น้ำจากแม่น้ำและน้ำที่พุ่งเป็นสายกระเซ็นจากน้ำพุรอบเมือง เป็นเมืองหน้าด่านสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะเป็นทางขึ้นยอดเขาทั้งสามของที่นี่ คือ JUNGFRAU, EIGER และ MONCH มักมาเริ่มต้นที่นี่ มีโรงแรม รีสอร์ท ร้านค้าต่างๆ นำท่านเดินเล่นพักผ่อนชื่นชมบรรยากาศกลางเมืองน่ารักแห่งนี้

ค่ำ                 

รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคาร

พักค้างคืน PARK HOTEL BEATENBERG หรือเทียบเท่า ****

วันที่ 5เมืองกรินเดอวาลด์ - ยอดเขายุงเฟรา - เลาเทอร์บรุนเนิน - เมืองลูเซิร์น - ชมเมืองเก่า

เช้า               

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาลด์ (GRINDELWALD) จุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวยอดเขายุงเฟรา โดยในปี ค.ศ. 2001 องค์การ UNESCO ประกาศให้ยอดเขายุงเฟรา เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป นำท่านนั่งกระเช้า EIGER EXPRESS จากนั้นต่อด้วยรถไฟท่องเที่ยวธรรมชาติของ JUNGFRAUBAHN ขึ้นพิชิต สถานียอดเขายุงเฟรา (JUNGFRAUJOCH)  ที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 3,454 หรือ 11,332 ฟุต เป็นสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น TOP OF EUROPE ส่วนยอดเขายุงเฟรานั้นสูง 4,158  เมตร (13,642 ฟุต) ที่มีความหมายว่า “สาวน้อย” เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความงาม ระหว่างเส้นทางนำท่านสู่ ยอดเขาแวะชมกลาเซียร์ หรือ ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ ALETSCH GLACIER ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ยาวถึง 22 กิโลเมตรและหนา 700 เมตรโดยที่ไม่เคยละลาย นำท่านชมวังน้ำแข็ง (ICE PALACE) ที่แกะสลักอย่างสวยงามอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร อิสระให้ท่านได้สนุกสนานเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนยอดเขา โดยสถานที่ต้องขึ้นไปคือ หอคอย SPHINX ซึ่งมีความสูงถึง 3,571 เมตร บนคอหอยจะสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา มองเห็นยอดเขาอื่นๆ เรียงรายสลับซับซ้อน ยอดเขาแต่ละแห่งต่างปกคลุมไปด้วยหิมะสวยงาม สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาด คือ การส่งโปสการ์ด โดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป

เที่ยง           

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา

บ่าย               

สมควรแก่เวลานำท่านนั่งรถไฟลงจากยอดเขาสู่ สถานีเลาเทอร์บรุนเนิน (LAUTERBRUNNEN)  หมู่บ้านเล็กๆ ในรัฐแบร์น ห่างจากเมืองอินเทอร์ลาเก้นประมาณ 12 กิโลเมตร หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาสูงชันที่มีความสูงกว่า 1,000 เมตร ด้านหนึ่งมีน้ำตกชเตาบ์บาค (STAUBBACH FALLS) ที่มีความสูง 300 เมตร ซึ่งถือเป็นน้ำตกที่ตกอย่างอิสระที่สูงที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ด้วยทัศนียภาพที่สวยงามล้อมรอบด้วยธรรมชาติงดงามเหมือนดั่งภาพที่วาดไว้ จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (LUCERN) เมืองตากอากาศที่โด่งดังของสวิตเซอร์แลนด์ และยังมีความสำคัญในด้านการก่อกำเนิดสมาพันธรัฐอีกด้วย เมืองนี้ตั้งอยู่ริมทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า เวียวาลด์ สแตร์ทเตอร์ อันหมายถึงทะเลสาบสี่พันธรัฐ นำท่านแวะชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ อนุสาวรีย์สิงโตแกะสลักริมหน้าผา สัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ และเสียสละที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่ทหารสวิสที่เสียชีวิต จากการปกป้องพระราชวังตุยเลอลีส์ในฝรั่งเศส นำท่านชม สะพานคาเปล สะพานไม้เก่าแก่ของเมืองที่มีอายุกว่า 600 ปี ทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งภายในร้านตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาชื่อดัง อาทิ บุคเคอเรอร์, กือ เบอลิน, เอ็มบาสซี่ หรือร้านขายของที่ระลึก ร้านช็อกโกแลต และสินค้าที่มีชื่อเสียง

ค่ำ                 

รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคาร

พักค้างคืน GRAND EUROPE HOTEL หรือเทียบเท่า ****

วันที่ 6เมืองลูเซิร์น - กรุงมิลาน (อิตาลี) - ชมเมืองเก่า - เวนิส - เมสเตร้

เช้า                

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงมิลาน (MILAN) หรือ มิลาโน่ ที่มีชื่อเสียงในด้านศิลปะและเครื่องหนัง เป็นเมืองแห่งแฟชั่นที่สำคัญเมืองหนึ่งของโลกในลักษณะเดียวกับนิวยอร์ก ปารีส และลอนดอน

เที่ยง             

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย               

จากนั้นนำท่านชมและถ่ายภาพกับ ดูโอโม่แห่งมิลาน (DUOMO DI MILANO) โบสถ์ใหญ่อันดับ 3  ของยุโรป เป็นศิลปะแบบโกธิกที่หรูหรา ใช้เวลาในการสร้างนานเกือบ 500 ปี โดยไฮไลท์ของโบสถ์แห่งนี้ คือ การตกแต่งประดับประดาที่เน้นความหรูหราอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะรูปปั้นรอบตัวอาคารมีจำนวนกว่า 3,000 ชิ้น ลา สกาล่า เธียเตอร์ (LA SCALA THETRE) เป็นหนึ่งในโอเปร่าเฮาส์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลก สถานที่ทางศิลปะทั้งโอเปร่า บัลเลต์ และคอนเสิร์ตระดับมาตรฐานสูง และ อนุสาวรีย์เลโอนาร์โด ดา วินชี (DA VINCI STATUE) ซึ่งเป็นรูปปั้นที่สร้างขึ้นเพื่อยกย่องเขาในฐานะศิลปิน นักวิทยาศาสตร์ และนักประดิษฐ์ระดับโลก จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวนิส (VENICE) เมืองหลวงแห่งแคว้นเวเนโต้เจ้าของฉายา “ราชินีแห่งทะเลอาเดรียติก”          

ค่ำ               

รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคาร

พักค้างคืน NOVOTEL VENICE MESTRE CASTELLANA HOTEL หรือเทียบเท่า ****

วันที่ 7เมสเตร้ - ท่าเรือตรอนเชโต้ - เกาะเวนิส - ชมเมืองเก่า - เมืองปิซา - หอเอนเมืองปิซ่า - เมืองเซียนา

เช้า              

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเชโต้ (TRONCHETTO) นำท่านลงเรือเหมาลำส่วนตัวเดินทางสู่ เกาะเวนิส (VENICE ISLAND) เมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการกล่าวขานว่าโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก “ เมืองที่ใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน ” เป็นเกาะเล็กใหญ่กว่า 118 เกาะและมีสะพานเชื่อมมากกว่า 400 แห่ง จากนั้นนำท่านเดินเท้าไปยัง จัตุรัสซานมาร์โก (SAN MARCO PIER) อันเป็นศูนย์กลางของนครเวนิส ผ่านชม สะพานถอนหายใจ (BRIDGE OF SIGHS) ที่เชื่อมต่อระหว่าง พระราชวังดอจ (DOGE ‘S PALACE) กับเรือนจำโบราณ อันเคยเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของการปกครองแคว้นในยุคนั้นอีกด้วย นำท่านแวะถ่ายภาพ โบสถ์เซนต์มาร์ก (ST MARK’S BASILICA) สร้างด้วยสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ และอาคารรายระเบียงสำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจกับร้านกาแฟชื่อดังหรือเลือกช้อปปิ้งสินค้าของเวนิสตาม ร้านรวงต่างๆ อาทิเช่น เครื่องแก้วมูราโน่ ต้นตำรับของการเป่าแก้วของชาวมูราโน่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาตั้งแต่บรรพชน โดยเครื่องแก้วแต่ละชิ้นมีรูปแบบและคุณภาพ ซึ่งเป็นที่ยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก

เที่ยง             

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย               

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ฝั่ง ท่าเรือตรอนเชโต้ (TRONCHETTO) จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยัง เมืองปิซา (PISA) เมืองซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเชิงเขา MONTE PISANO ทางตะวันตกของแค้วนทัสคานี อดีตเมืองท่าริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนฝั่งตะวันตก ที่มีชื่อเสียงของชาวโรมัน  ช่วงศตวรรษที่ 11-13 จากนั้นนำท่านแวะถ่ายภาพ หอเอนเมืองปิซา (LEANING TOWER OF PISA) เป็นหอระฆังของโบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองปิซาที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เนื่องจากโครงสร้างของมันเอียงอย่างผิดปกติตั้งแต่เริ่มสร้างและกลายเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรมของโลกในยุคกลาง จัตุรัสแห่งปาฏิหาริย์ (SQUARE OF MIRACLES) เป็นหนึ่งในจัตุรัสแห่งศรัทธาและศิลปะกลางยุคกลางที่สำคัญที่สุดในโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยยูเนสโกเมื่อปี 1987 และ มหาวิหารแห่งเมืองปิซา (THE DUOMO OF PISA) มหาวิหารประจำเมืองปิซา และเป็นศูนย์กลางสำคัญของจัตุรัสแห่งปาฏิหาริย์ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองเซียนา (SIENA) เมืองประวัติศาสตร์ขนาดกลาง ตั้งอยู่ในแคว้นทัสกานี ทางตอนกลางของประเทศอิตาลี และเป็นหนึ่งในเมืองที่งดงามที่สุดในอิตาลี ทั้งในด้านสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม

ค่ำ               

รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม

พักค้างคืน FOUR POINTS BY SHERATON SIENA HOTEL หรือเทียบเท่า ****

วันที่ 8 เมืองเซียนา - กรุงโรม - นครรัฐวาติกัน - โคลอสเซียม - วิหารแพนเธออน - น้ำพุเทรวี่ - บันไดสเปน - สนามบิน - กรุงเทพฯ

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงโรม (ROME) เป็นเมืองหลวงของประเทศอิตาลี และเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่และมีอิทธิพลทางประวัติศาสตร์มากที่สุดในโลกตะวันตก ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ โดยมีอดีตอันยิ่งใหญ่ และเกรียงไกรในยุคจักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ เมื่อราวกว่า 2,800 ปีที่ผ่านมา

เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ นครรัฐวาติกัน รัฐอิสระที่ปกครองตนเองเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นำท่านแวะถ่ายภาพที่ระลึกกับ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ที่พำนักขององค์สันตะปาปาจอห์นพอลที่ 2 ที่มีการตกแต่งอย่างโอ่อ่าหรูหรา ยอดโดมบารอคขนาดใหญ่ที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน ล้วนเป็นสิ่งล้ำค่าคู่บ้านคู่เมือง พร้อมนำท่านถ่ายรูปที่ระลึกกับ สนามกีฬาโคลอสเซียม โบราณสถานเก่าแก่ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เคยเป็นสนามกีฬายักษ์ที่สามารถจุคนได้กว่า 50,000 คน การออกแบบอย่างชาญฉลาดสร้างให้สนามกีฬา มีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้เข้าชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาในปัจจุบัน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสนาโวนา (PIAZZA NAVONA) เป็นจัตุรัสกลางเมืองโรมที่มีชื่อเสียงและงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นบนพื้นที่ของสนามกีฬายุคโรมันโบราณ และกลายเป็นศูนย์กลางทางศิลปะและชีวิตชาวโรมันมานานหลายศตวรรษ นำท่านถ่ายภาพกับ วิหารแพนเธออน (PANTHEON) เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมโรมันโบราณที่โดดเด่นและได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดในกรุงโรม สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิมาร์คุส วิบซานิอุส อะกริบปา จุดมุ่งหมายในการสร้างไม่ชัดเจน แต่ต่อมามีการสร้างใหม่ในสมัยจักรพรรดิฮาเดรียน ใน ค.ศ. 126 และซ่อมใหญ่ในปี ค.ศ. 202 โดยจักรพรรดิ์ เซพติมิอุส เซเวรุส จากนั้นนำท่านชม น้ำพุเทรวี่ (TREVI FOUNTAIN) เป็นน้ำพุที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ชื่อ “เทรวี่” นั้นมาจากคำว่า “ตรีวิอุม” หมายถึงพบกันของถนนสามสาย เป็นอนุสรณ์สไตล์บารอค ออกแบบและก่อสร้างโดย นิโคลา ซาลวี่ ซึ่งองค์สมเด็จสันตะปาปาครีเมนต์ที่ 12 ได้มอบหมายให้สร้างขึ้นในปี 1732 พร้อมนำท่านถ่ายรูปภาพคู่ บันไดสเปน (SPANISH STEPS) เป็นบันไดในกรุงโรม ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ชื่อ FRANCESCO DE SANCTIS เชื่อมระหว่าง PIAZZA DI SPAGNA และ PIAZZA TRINITÀ DEI MONTI เป็นบันไดที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดในทวีปยุโรป มีขั้นบันไดทั้งหมด 138 ขั้น ใช้สำหรับเดินเล่นหรือเลือกซื้อสินค้าต่างๆ โดยย่านบันไดสเปนนับว่าเป็นแหล่งพักผ่อนของชาวอิตาลี และนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ

ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังรับประทานอาหาร ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติเลโอนาร์โด ดา วินชี เตรียมเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร

22.10 น.
คณะทัวร์อำลา กรุงโรม โดยสายการบินเอมิเรตส์แอร์ไลน์ (EK) เที่ยวบิน EK096/EK370 (22.10-05.50+1/09.00-18.25) แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์  บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน

วันที่ 9 กรุงเทพมหานคร

18.25 น.   

คณะเดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ … พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม