21.00 น.
คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินออสเตรีย แอร์ไลน์ (OS) เจ้าหน้าที่ วาริต้า ทราเวล คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง
23.40 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงบูคาเรส ประเทศโรมาเนีย โดยเที่ยวบินที่ OS026/OS783 (2340-0535/0945-1220) แวะเปลี่ยนเครื่องที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน)
12.25 น.
เดินทางถึง สนามบินนานาชาติกรุงบูคาเรส ประเทศโรมาเนีย หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากรเรียบร้อยแล้ว รถโค้ชปรับอากาศมาตรฐานยุโรปนำท่านเดินทางนำท่านเดินทางสู่ เมืองซินายา (Sinala) เมืองเล็กๆ บนเทือกเขาคาร์เปเทียน ตั้งอยู่ห่างจากกรุงบูคาเรสต์ เมืองหลวงของโรมาเนียไปทางทิศเหนือราว 123 กิโลเมตร มีอากาศหนาวเย็นจัดในฤดูหนาว และอุณหภูมิเย็นสบายในฤดูร้อน เมืองซินายาจึงมีชื่อเสียงในเรื่องรีสอร์ทบนภูเขาที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดเป็นจำนวนมาก จากนั้นนำท่านชม ปราสาทเปเลส (Peles Castle) ซึ่งตั้งอยู่ใน หุบเขาบูเซกิ กลางป่าสน บนเทือกเขาคาร์เปเทียน เป็นปราสาทที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงาม และคงสภาพสมบูรณ์ที่สุดในโรมาเนีย สร้างขึ้นโดยกษัตริย์คาโรลที่ 1 เพื่อใช้เป็นที่ประทับในช่วงฤดูร้อนปราสาทนี้ใช้เวลาสร้างนานถึง 10 ปี ตัว ปราสาทเป็นศิลปะแบบเยอรมัน ภายในปราสาทตกแต่งหรูหราอลังการด้วยไม้แกะสลักเสลาลวดลาย งดงาม เป็นปราสาทที่รวบรวมงานศิลปะที่สวยงามมากมายจากประเทศต่างๆ ในยุโรป เช่น โคมไฟ ระย้าจากอิตาลี รูปภาพติดผนังจากฝรั่งเศส เป็นต้น สมควรแก่เวลานำท่านไปชม วิหารซินายา (Sinaia Monastery) โดยวิหารตั้งอยู่บนภูเขาซีนาย (Mount Sinai ) เป็นวิหารขนาดใหญ่ของนิกายออร์โธดอกซ์ ที่ก่อตั้งโดยเจ้าชาย Mihail Cantacuzino ใน 1695 สำหรับการเดินทางไปยังวิหารนั้น สามารถเข้าถึงได้โดยรถไฟและรถยนต์ ได้เวลานัดหมายนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองบราซอฟ ที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองบูคาเรสต์ และอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศโรมาเนีย
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ที่พักอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
พัก RAMADA BRASOV HOTEL หรือเทียบเท่า ****
เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชมความงดงามของเมืองบราซอฟ เป็นเมืองใหญ่ที่สุดแห่งแคว้นทรานซิลวาเนีย แคว้นที่สวยงาม และมีชื่อเสียงของโรมาเนีย แคว้นนี้เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดยชาวแซกซอนส์ซึ่งเคยถูกปกครองโดยชนชาติเยอรมันและเป็นศูนย์กลางการค้าของชาวแซกซอนส์ อาคารโดยทั่วไปจึงตกแต่งตามสไตล์เยอรมัน เมืองบราซอฟจึงมีร่องรอยเก่าแก่ของวัฒนธรรมโรมาเนีย ด้วยความสวยงามของเมืองแห่งนี้ ถึงขั้นได้รับการขนานนามจากนักท่องเที่ยวให้เป็น “สวิสน้อยแห่งยุโรปตะวันออก” บราซอฟ เป็นเมืองที่มีจัตุรัสกลางเมืองที่สวยงาม ตึกรามบ้านเรือนต่างได้รับการอนุรักษณ์ไว้เป็นอย่างดี จากนั้นอิสระให้ท่านได้เดินเล่นตามอัธยาศัย เลือกซื้อของฝากของที่ระลึก หรือนั่งเล่นร้านกาแฟแบบชิล ๆ ก็มีให้เลือกนับสิบร้าน ได้เวลานัดหมายนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองบราน (BRAN) เมืองที่มีชื่อเสียงมากเมืองหนึ่งในมณฑลบราโชฟ (Braşov County) โรมาเนีย เมืองซึ่งเลื่องชื่อในเรื่องของตำนานผีดูดเลือด หรือความเชื่อที่ว่าเมืองแห่งนี้เป็นที่อยู่ของแวมไพร์ในอดีต “จัตุรัสสภา ” หัวใจแห่งบราซอฟ จัตุรัสที่อยู่ใจกลางเมืองบราซอฟคือหัวใจของเมืองงามแห่งนี้ เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งอาคารสภาชุมชนเมืองที่มีอายุอานามกว่าพันปี ที่สำคัญรอบ ๆ จัตุรัสแห่งนี้เป็นแหล่งชุมนุมของสถาปัตยกรรมศิลป์หลายสมัย นับตั้งแต่อาคารแบบโรมาเนสก์ โบสถ์สไตล์เรอเนสซองซ์ โรงแรมแบบบาโร้ก รวมถึงร้านกาแฟภายในอาคารแบบโรโคโค ซึ่งสร้างต่อเนื่องกันมาหลาย ๆ สมัยจัตุรัสแห่งนี้นี่เองเป็นที่มาของการขนานนามว่า “บราซอฟคือเมืองงามที่สุดของโรมาเนีย” นำท่ามตามรอยตำนานผีดูดเลือดโดยการนำท่านเข้าชม ปราสาทบราน (BRAN CASTLE) หรือที่รู้จักกันในนาม ปราสาทแดร็กคูล่า สร้างขึ้นในในศตวรรษที่ 14 เป็นปราสาทที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในโรมาเนียตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนยอด สร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมควบคุมเส้นทางการค้าและเก็บภาษีระหว่างแคว้นวาลันเซียและแคว้นทรานซิลวาเนียของประเทศโรมาเนีย ท่านจะได้ชมห้องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องบรรทม ห้องอ่านหนังสือ ห้องเล่นดนตรี นำท่านชมห้องแสดงตำนานของแดร็กคูล่า จากนั้นอิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากของที่ระลึกกันตามอัธยาศัย
เที่ยง ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นเดินทางต่อสู่กรุงบูคาเรสต์ (BUCHAREST) เมืองหลวงของโรมาเนีย ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบวอลลาเซีย ติดเทือกเขาคาร์เปเชียนและแม่น้ำดานูป บูคาเรสต์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีธรรมชาติอันสวยงามล้อมรอบด้วยเทือกเขาและทะเลสาบจนได้สมญานามเป็นที่รู้จักกันทั่วยุโรปว่า “ปารีสน้อย” นำท่านเที่ยวชมเมืองและแวะถ่ายรูป จัตุรัสแห่งการปฎิวัติ (Revolution Square), โอเปร่าเฮ้าส์ (Opera House), คลับทหารแห่งชาติ (National Military Academy) ผ่านชม “ประตูชัย” ซึ่งตั้งอยู่บนถนน KISSELEFF ซึ่งสร้างเลียนแบบประตูชัย ในกรุงปารีส ในสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนีย จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับอาคารรัฐสภาหรือทำเนียบประธานาธิบดีของโรมาเนีย (Parliament Palace) ทำเนียบประธานาธิบดีที่ใหญ่โตโอฬารของประธานาธิบดีเชาเชสคู และนางเอลินา ภริยาผู้ซึ่งอยากมีชีวิตหรูหราประหนึ่งเอวิต้า เปรอง อาคารรัฐสภานี้ได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากตึกเพนตากอนของสหรัฐอเมริกา และมีจำนวนห้องมากถึง 6,000 ห้อง สร้างแบบสถาปัตยกรรมโรมาเนีย ทั้งโครงสร้างและการตกแต่งทั้งภายนอกและภายในอาคาร แต่ละห้องตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ท่านได้สัมผัสถึงความโอ่อ่า ความยิ่งใหญ่ของอาคารรัฐสภาที่ใช้งบประมาณมหาศาลในการก่อสร้าง จากนั้นนำท่านสู่ย่านเมืองเก่า อิสระให้ได้ช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง ของฝากของที่ระลึกกันตามอัธยาศัย
ค่ำ ä บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเดินทางกลับสู่ที่พักอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
ã พัก RAMADA BUCHAREST MAJESTIC HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ เมืองเวลีโค ทาร์โนโว (VELIKO TARNOVO) ดินแดนที่มีการตั้งถิ่นฐานที่เก่าแก่ที่สุดในบัลแกเรีย ตั้งแต่ยุคกลางมีการสร้าง ป้อมปราการที่มีความแข็งแกร่งเพื่อป้องกันข้าศึก ตั้งอยู่บนเนินเขาถึงสามลูก คือ Tsarevets, Trapezitsa และ Sveta Gora และยังมีเขตแดนติดกับแม่น้ำยานตาที่มีความใสสะอาดราวกับกระจกสะท้อนอยู่เบื้องล่าง นอกจากนั้นยังเคยเป็นเมืองหลวงแห่งที่สองของอาณาจักรบัลแกเรีย ด้วยความพร้อมในทุกๆด้านเมืองแห่งนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของบัลแกเรียตอนเหนือ ระหว่างทางให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการชมอาคารบ้านเรือนสวยงามแปลกตาที่ปลูกสร้างแบบสถาปัตยกรรมผสมผสานแบบ Bulgarian National Revival ซึ่งบางทีก็ถูกเรียกว่า บัลแกเรียนเรอเนสซองส์ (Bulgarian Renaissance) ป้อมปราการ โบสถ์ และพิพิธภัณฑ์มากมาย ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของโลกยุคโบราณ
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านชมปราสาทซาเรเวทส์ (TSAREVETS FORTRESS) ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาซาเรเวทส์ บริเวณริมแม่น้ำยานตาซากปรักหักพังอันโดดเด่น ซึ่งภายในมีป้อมปราการและพระราชวังที่แข็งแกร่งในยุคจักรวรรดิบัลแกเรียในยุคกลางที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งในอดีตเป็นที่อยู่อาศัยของกษัตริย์และมีโบสถ์ที่เป็น สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ปราสาทแห่งนี้ล้อมรอบด้วยกำแพงหนา กว่า 3 เมตร มีประตูทางเข้า 3 ทาง มีหอคอยบอลด์วินทางทิศตะวันออกเฉียงใต้มีพระราชวังตั้งอยู่ตรงกลาง ที่มีกําแพงปิดล้อมอีกชั้นหนึ่ง ภายในกําแพงเมืองเต็มไปที่อยู่อาศัยของช่างฝีมือและสถานที่ฝึกอบรมช่างฝีมือเพื่อรับใช้งานทางคริสตจักรแต่ในปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีการตกแต่งด้วยศิลปะร่วมสมัยที่สวยงามและแปลกตา ปัจจุบันได้มีการทำนุบำรุงรักษาอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้ป้อมปราการแหล่งนี้อยู่ในลักษณะที่ค่อนข้างสมบูรณ์ จากนั้นนำท่านชมความงดงามของเมืองทาโนโว อิสระให้ท่านเดินเล่นย่านเมืองเก่าเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกกันตามอัธยาศัย
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเดินทางกลับสู่ที่พักอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
พัก MERIDIAN HOTEL BOLYARSKI หรือเทียบเท่า
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ คาซานลัค แหล่งปลูกกุหลาบที่ใหญ่ที่สุดในบัลแกเรีย สถานที่ที่มองไปทางไหนก็เจอแต่ ดอกกุหลาบ สถานที่ที่สาวๆจากทั่วโลกอยากมาเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิต นำท่านเดินทางไปตามเส้นทางสายดอกกุหลาบ ณ หุบเขาแห่งดอกกุหลาบ (THE VALLEY OF ROSES) แหล่งปลูกกุหลาบอันกว้างใหญ่ ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาเยือนเมื่อมาเมืองคาซานลัค ซึ่งมีภูมิอากาศเหมาะแก่การเติบโตของดอกกุหลาบอย่างมาก อาจจะเรียกได้ว่า ดอกกุหลาบที่มาจากเมืองคาซานลัคเป็นดอกกุหลาบที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดในโลก ชมทุ่งดอกกุหลาบที่ปลูกไว้ในไร่อันกว้างใหญ่ กินอาณาเขตไปเป็นภูเขาทั้งลูก ให้ท่านได้ตื่นตาไปกับความสวยงามของมวลดอกกุหลาบนานาชนิดที่ชูดอกเบ่งบานรอการเก็บเกี่ยวอย่างสวยงาม ชมวิธีการเก็บดอกกุหลาบในไร่ ให้ท่านได้ลองเก็บกุหลาบที่มีกลิ่นหอมอย่างสนุกสนาน และให้ท่านได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ เครื่องหอม เช่น น้ำหอม โลชั่น สบู่ แชมพู และน้ำมันหอมระเหย กลิ่นพฤกษาดอกไม้นานาพันธ์ โดยเฉพาะกลิ่นกุหลาบที่มีชื่อเสียงของเมือง
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองพลอฟดิฟ ที่ตั้งอยู่ทางด้านใต้ เป็นเมืองศูนย์กลางการบริหารและการปกครองของจังหวัดพลอฟดิฟ ที่มีความใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 350,000 คน ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามระหว่างทาง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปลูกดอกไม้ที่ใช้ทำหัวน้ำหอม และฟาร์มปศุสัตว์ต่าง ๆ นำท่านชม เมืองเก่าพลอฟดิฟ (Plovdiv Old City) ส่วนที่เก่าแก่ของตัวเมืองได้รับการอนุรักษ์ทางสถาปัตยกรรม ซึ่งทำให้ พลอฟดิฟ ยังคงมีกลิ่นอายของยุคเรอเนสซองจนถึงปัจจุบัน สภาพตึกรามบ้านช่องยังคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งรูปแบบเดิมเป็นที่น่าประทับใจของนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือน จากนั้นนำท่านเดินชมเขต เมืองเก่าบนถนนที่ปูด้วยแผ่นหินแบบโบราณ นำชม โบราณสถานโรงละครกลางแจ้งแบบโรมัน(Philippopolis Theatre) อายุกว่า 2,000 ปี ที่ ยังคงสภาพสมบูรณ์ และ สภาโรมัน (Roman Forum) ผ่านชม สุเหร่าโบราณ (Dzhumaya Mosque) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ในช่วงการปกครองของออตโตมันเติร์ก โดยสร้างทับลงไปบนโบสถ์คริสต์เก่าเซ้นต์เพตก้า ใช้เสาขนาดใหญ่สี่เสาคร่อมเหนือโถงใต้ดิน 9 โถง โดมสุเหร่าเคลือบทับด้วยตะกั่ว และมีหอขานสูงถึง 23 เมตร และผ่านชมโรงอาบน้ำแบบตุรกีโบราณ (Turkish Bath) อายุย้อนหลังไปในราวคริสต์ศตวรรษที่ 16 ที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ จากนั้นมีเวลาให้ท่านได้เดินเล่นย่านจัตุรัสใจกลางเมืองเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกตามอัธยาศัย
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารอิสระพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
พัก Hotel Imperial Plovdiv หรือเทียบเท่า
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางชมเมืองคาร์โลโว เมืองซึ่งเป็นแหล่งปลูกกุหลาบที่ใหญ่และมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของบัลแกเรีย เนื่องจากเมืองคาร์โลโวมีภูมิอากาศเหมาะแก่การเติบโตของดอกกุหลาบอย่างมาก จึงเป็นศูนย์กลางแหล่งผลิตเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เครื่องหอม เช่น น้ำหอม โลชั่น สบู่ แชมพู และน้ำมันหอมระเหย กลิ่นพฤกษาดอกไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะกลิ่นกุหลาบที่มีชื่อเสียงของเมือง และอาจกล่าวได้ว่ากุหลาบที่มาจากบัลแกเรียเป็นกุหลาบที่ดีที่สุดในโลก ดังนั้นกุหลาบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศบัลแกเรียอีกด้วย ได้เวลาอันสมควรนำท่านชมเทศกาลดอกกุหลาบ ROSE FESTIVAL KARLOVO เทศกาลนี้เริ่มจัดครั้งแรกเมื่อปี 1903 และจัดต่อกันมาทุกปีจนถึงปัจจุบัน โดยจะจัดในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมของทุกปี บริเวณที่จัดงานจะมีการแสดงของวงดนตรีพื้นเมือง ในงานจะคัดเลือกดอกกุหลาบที่สวยที่สุดมาตกแต่งประดับประดาและคัดเลือกหญิงสาวงามในเมืองมาร่วมงาน มีการประกวดสาวงามประจำเมือง โดยหญิงสาวที่จะสามารถลงประกวดได้นั้นมีข้อแม้ต้องเป็นหญิงสาวที่เรียนจบระดับมัธยมในเมืองเท่านั้น ซึ่งผู้ชนะจะได้เป็น “The Queen Of Roses” จากนั้นร่วมชมขบวนพาเรดแห่ดอกกุหลาบ (Rose Festival Parade) ที่จัดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ ในขบวนชาวเมืองจะแต่งกายชุดประจำชาติสีสันสดใส ร่วมกันร้องเพลง เต้นรำ และโปรยดอกไม้อย่างรื่นเริง
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
ได้เวลานัดหมายนำท่านเดินทางเข้าสู่กรุงโซเฟีย (Sofia) เมืองหลวงของประเทศบัลแกเรีย (Bulgaria) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศ มีเทือกเขาวิโตชา ที่บนยอดเขาปกคลุมไปด้วยหิมะทอดยาวเป็นฉากหลังอันงดงามของเมือง นำท่านเที่ยวชมกรุงโซเฟีย ซึ่งเป็นเมือง ชุมทางในบริเวณคาบสมุทรบอลข่าน “Balkans Peninsula” ในสมัยจักรพรรดิคอนสแตนตินของโรมัน พระองค์ทรงชื่นชอบเมืองแห่งนี้มากจนได้ให้ชื่อว่า “My Rome” จากนั้นอิสระให้ได้เดินเล่นเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกกันตามอัธยาศัย
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ที่พัก
พัก NOVOTEL HOTEL. หรือเทียบเท่า
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองรีล่า เมืองที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาอันสวยงาม ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์จนได้ขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาติ ท่ามกลางป่าเขานี้เป็นที่ตั้งของ อารามรีล่า (Rila Monastery) เป็นอารามของคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดและมีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดของประเทศบัลแกเรีย โดยตัววิหารนั้นตั้งอยู่บนจุดที่มีทิวทัศน์สวยงามของภูเขารีล่า ที่ระดับความสูง 1,147 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลซึ่งสามารถมองเห็นแม่น้ำริลสก้าและดรุสย่า วิทซ่า ที่ไหลอยู่เบื้องล่างได้อย่างสวยงาม ให้ท่านเดินชมความงดงามอลังการของวิหารที่ก่อตั้งขึ้นในคริสตศตวรรษที่ 10โดยนักบุญจอห์นแห่งรีล่า (St.John of Rila) หลุมศพของท่านกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นอารามที่มีบทบาทสำคัญในด้านจิตวิญญาณและสังคมของบัลแกเรียยุคกลาง อารามน้ีเคยถูกทำลายด้วยเหตุเพลิงไหม้ตอนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 และได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ระหว่างคริสตศักราช 1834-1862 รูปแบบของอารามเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของศิลปะสมัยเรอเนสซองส์ ในราวคริสต์ศตวรรษที่ 18-19 และเป็นจุดมุ่งหมายในการเดินทางแสวงบุญของคริสต์ศาสนิกชนนิกายออโธดอกซ์จากทั่วโลก นอกจากนี้อารามเป็นแหล่งสะสมทรัพย์สมบัติ และวัสดุวรรณกรรมอายุกว่าร้อยปีอีกเป็นจำนวนมากและยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ.1983 อีกด้วย
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านเดินทางกลับสู่กรุงโซเฟียอีกครั้ง นำท่านชมความงามของตัวเมืองที่มหาวิหารอเล็กซานเดอร์ เนฟสกี “Alexander Nevsky Cathedral” มหาวิหารนี้มีรูปแบบการก่อสร้างแบบนีโอไบแซนไทน์ ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกนามว่า อเล็กซานเดอร์ โพมีรานท์เซฟ ก่อสร้างในแบบโดมหลังคาทรงกลมสีเขียว ที่มีความสูงถึง 53 เมตร ตกแต่งด้วยหินอ่อนอันวิจิตรตระการตา ภายในมีเนื้อที่ประมาณ 3,170 ตารางเมตร ซึ่งสามารถจุผู้เข้าทำพิธีได้ประมาณ 10,000 คน จึงถือเป็นหนึ่งในมหาวิหารคริสตจักรนิกายออร์โธดอกซ์ที่ใหญ่อันดับต้นๆ ของภูมิภาคนั้น จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์โซเฟีย “The Sofia Synagogue” โบสถที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ และใหญ่เป็นอันดับสามในทวีปยุโรป จากนั้นแวะไปชมพระราชวังเดิมที่ จัตุรัสบัทเทนเบิร์ก (Battenberg Square) ซึ่งปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ ได้กลายเป็น หอศิลป์แห่งชาติ (National Art Gallery) นำท่านผ่านชม สวนสาธารณะเก่าประเมืองโซเฟีย ผ่านชมทำเนียบประธานาธิบดี และโบสถ์เซนต์จอร์จ (St. George) เป็นโบสถ์คริสต์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยชาวโรมันในศตวรรษที่ 4 ก่อสร้างโดยใช้ อิฐแดง และยังถือว่าเป็นอาคารเก่าแก่ที่สุดในโซเฟีย ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน
18.45 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดยเที่ยวบิน OS 798/OS025 (1845-1920/2325-1440 )แวะเปลี่ยนเครื่องที่กรุงเวียนนาประเทศออสเตรีย ä (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง )
14.40 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิด้วยความสวัสดิภาพ…พร้อมความประทับใจไม่รู้ลืม