ทัวร์จีน เส้นทางสายไหม 8 วัน 7 คืน CZ

เช้า             

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สวนกังหันน้ำสุ่ยเฌอ สวนสาธารณะแห่งนี้เปิดให้บริการเมื่อปี ค.ศ.2005 เพื่อจัดแสดงกังหันน้ำ และจำลองฉากทัศน์ของกังหันน้ำที่เคยตั้งเรียงรายอยู่ทั้งสองฟากฝั่งแม่น้ำเหลือง

เที่ยง             

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย               

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟความเร็วสูง ขบวนที่ … เพื่อออกเดินทางสู่ เมืองจางเย่

… น. ออกเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูง สุดยอดเทคโนโลยีในการเดินทางของจีนที่ได้รับการยกย่องว่าสะดวกสบายที่สุดเทียบเท่ากับการเดินทางด้วยสายการบินชั้นนำ ระหว่างทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามสองข้างทาง ( ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.41 ชม. )

… น. คณะเดินทางถึง เมืองจางเย่ เมืองที่สำคัญมากในเส้นทางสายไหมทั้งในเรื่องขอประวัติศาสตร์ความเป็นมาในเรื่องที่เป็นเมืองแห่งพุทธศาสนาวัดพระใหญ่ หรือ วัดต้าฝอ (Dafo Temple) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ เมืองจางเย่ มณฑลกานซู ประเทศจีน เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองจางเย่ ด้วยสถาปัตยกรรมวิหารไม้ศิลปะสมัยราชวงศ์เซี่ย ซึ่งสร้างครอบพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่ไว้ วิหารแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นวิหารไม้ครอบพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่เป็น อันดับหนึ่ง ของเอเชีย ภายในวิหารใหญ่เป็นที่ประดิษฐานของพระนอนศักดิ์สิทธิ์ องค์ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ภัตตาคาร

ค่ำ                

รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคาร

พักค้างคืน PU YUE HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ ****

เช้า                

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านสู่ อุทยานธรณีวิทยาจางเย่ตันเซี๋ย อุทยานธรณีแห่งชาติเมืองจางเย่ ตั้งอยู่ระหว่างเขตปกครองตนเองชนชาติยู่กู้ซู่หนานและมณฑลหลินเสอในเมืองจางเย่ มณฑลกานซู่ ประเทศจีน อุทยานแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 322 กม พื้นที่นี้ถูกจัดตั้งเป็นอุทยานธรณีระดับจังหวัด ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ” อุทยานธรณีแห่งชาติเมืองจางเย่ ” นำท่านชม ภูเขาสายรุ้ง ในเขตมณฑลกานซู่ เป็น ประติมากรรมธรรมชาติ ประกอบไปด้วยแนวเขาแต้มสีเป็นลายริ้ว ซึ่งเกิดจากหินทราย  และแร่ธรรมชาติที่ค่อยๆ ก่อตัวผ่านการปรับแต่งจากลม  ฝน  และกาลเวลากว่า 24 ล้านปี ทั้งนี้ปัจจุบันทิวเขาหลากสีตันเซี๋ย นับเป็นลักษณะภูมิประเทศที่เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่พบในประเทศจีนเท่านั้น และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อปีพ.ศ. 2553  รวมเนื้อที่ 450,000 ไร่ขณะที่จีนยังมีทิวเขาลักษณะเดียวกับตานเสียในบริเวณนี้อีก 5 แห่ง และทั้งหมดล้วนได้รับการปกป้องอยู่ในบัญชีมรดกโลก เมื่อปี 2010 (รวมค่าบริการรถอุทยาน)

เที่ยง             

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย               

ได้เวลาสมควรนำท่านชม กำแพงเมืองจีนด่านเจียยี่กวน ถือเป็นด่านสุดท้ายทางด้านทิศตะวันตกของกำแพง  เมืองจีนหมื่นลี้ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางเจียยี่กวนได้รับสมญานามว่า “เทียนเซี่ยโฉวงกวน” หรือ “ด่านที่น่าเกรงขามอันดับหนึ่งในใต้หล้า” เริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1372 รัชกาลจักรพรรดิหมิงไท่จู ตัวด่านมีความยาวในแนวเหนือใต้ 160 เมตร ด้านตะวันตก 166 เมตร  และด้านตะวันออก 154 สูง 10 เมตร ด้านบนประตูทางเข้ามีหอสังเกตการณ์ 3 หอ ก่อสร้างด้วยไม้ 3 ชั้น นับเป็นด่านยุทธศาสตร์ที่สำคัญมี่สุดแห่งหนึ่งของกำแพงเมืองจีน เพื่อเป็นปราการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าทางตอนเหนือและทางตะวันตกด่านเจียยี่กวนได้ถูกบูรณะครั้งสำคัญ 2 ครั้ง ในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง 2 ราชวงศ์สุดท้ายในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของจีน ถือเป็นด่านสุดท้ายที่สุดชายแดนประจบกับชนเผ่ามองโกล ซึ่งสภาพแวดล้อมมีแต่ทะเลทรายเวิงว้าง ด่านเจียยี่กวนนี้ได้รับการสร้างและออกแบบด้วยการคำนวณมาเป็นอย่างดี โดยผู้ที่คำนวณการก่อสร้างนั้นได้สั่งอิฐที่ใช้ในการก่อสร้างมาจำนวนพอดีกับการก่อสร้าง โดยมีเกินมาเพียงก้อนเดียวเท่านั้น และทุกวันนี้อิฐก้อนดังกล่าวยังคงตั้งอยู่บนกำแพงของตัวด่าน เพื่อเป็นการสดุดีความสามารถในทางวิศวกรรมของนายช่าง (รวมค่าบริการรถแบตเตอรี่)

ค่ำ               

รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ที่พัก

พักค้างคืน YUAN DONG HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ ****

เช้า              

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางถึงเมืองตุนหวง เมืองตุนหวง เมืองแห่งโอเอซิสบนเส้นทางสายไหมที่เคยเจริญรุ่งเรือง อาณาบริเวณของเมืองตุนหวงนั้นติดกับเขตปกครองตนเองชนชาติซินเกียง เมืองนี้เป็นเมืองยุทธศาสตร์บนเส้นทางสายไหม ที่นักเดินทางทุกคนต้องหยุดแวะเพื่อจัดเตรียมเสบียงให้พร้อมก่อน เดินทางผ่านทะเลทรายอันยาวไกล เมืองตุนหวง จึงเป็นเมืองที่มีความหมายว่า ความเจริญรุ่งเรืองที่สุดในเส้นทางสายไหม

เที่ยง            

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย               

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เนินทรายหมิงซาซาน เทือกเขาทะเลทรายที่มีความยาวจากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก 40 กิโลเมตร จากทิศเหนือไปทิศใต้ 20 กิโลเมตร ยอดเขามีความสูงประมาณ 100 เมตร   ทรายมีสีสันต่างกัน 5 สี คือ สีแดง  สีเหลือง สีเขียว สีขาว และสีดำ ที่มาของภูเขาหมิงซาซาน แปลว่าภูเขาทรายร้องไห้ ตามตำนานเล่าว่าเคยมีกองทัพ 2 กองทัพกำลังสู้รบกันอยู่และในขณะนั้นได้เกิดพายุทรายพัดกระหน่ำมา จึงทำให้ทั้ง 2 กองทัพถูกฝังทั้งเป็นภายใต้กองทราย ปัจจุบันภูเขาหมิงซาซานเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองตุนหวง ให้ท่านได้ขี่อูฐชมทะเลทราย ที่กว้างใหญ่ เดินตามกันเป็นทิวแถวไปตามสันทรายที่โค้งไปมา ภูเขาทรายดูเป็นประกายเมื่อต้องแสงอาทิตย์ตัดกับฟ้าสวยสีครามใสที่ท่านจะประทับใจไม่รู้ลืม ( รวมค่าขี่อูฐและค่ารถแบตเตอรี่ )  จากนั้นนำท่านชม ทะเลสาบวงพระจันทร์ เป็นบ่อน้ำผุดที่ไม่เคยเหือดแห้ง แม้จะอยู่กลางทะเลทรายหมิงซาซาน มีความลึกเฉลี่ยเพียง 6 เมตร ความกว้างของทะเลสาบจากทิศเหนือไปทิศใต้ประมาณ 100 เมตร และจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก 25 เมตร ลักษณะของบ่อน้ำแห่งนี้คล้ายกับเสี้ยวพระจันทร์ จึงเป็นที่มาของ “สระน้ำวงพระจันทร์หรือสระน้ำพระจันทร์เสี้ยว” จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ตลาดซาโจว ไนท์มาร์เก็ตแห่งเมืองตุนหวง มีของให้เลือกชมทั้งของกิน สตรีทฟู้ด ขนม ผลไม้ขึ้นชื่อทั้งแบบสดและแบบแห้งของมณฑลกานซู รวมถึงสินค้าของที่ระลึก ซึ่งมีทั้งหินเครื่องประดับต่างๆ เครื่องดนตรี หรือสิ่งของที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของประเทศจีน

ค่ำ                

รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคาร

พักค้างคืน METROPARK HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ ****

เช้า                

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ถ้ำมอเกาคู เป็นถ้ำพระพุทธรูปแกะสลักที่สวยที่สุดติดอันดับ 1 ใน 4 ของ  เมืองจีน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก เมื่อ ปี ค.ศ. 1987 และได้รับการยกย่องเป็นแหล่งพุทธศิลป์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีน นำท่าน ชมภาพยนตร์ 3 มิติ เกี่ยวกับประวัติความ  เป็นมาของเส้นทางสายไหมและต้นกำเนิดของถ้ำมอเกาคูในช่วงที่ศาสนาพุทธเจริญรุ่งเรืองมีการติดต่อซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและสิ่งของต่างๆนานา เช่น ผ้าไหมและเครื่องเคลือบ เป็นต้น นำท่าน นั่งรถแบตเตอรี่ เข้าสู่หุบเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของถ้ำมอเกาคู นำท่านชมถ้ำโดยมีการแบ่งเป็นห้อง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างมหัศจรรย์บนหน้าผาของเขาหมิงซานซึ่งได้มีการแกะสลักหน้า  ผาทางตะวันออกของภูเขา ความยาวกว่า 1,600 เมตร ท่ามกลางทะเลทรายโกบี ห่างจากตัวเมือง    ตุนหวงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 25 กิโลเมตร ผาหินถูกเจาะเป็นถ้ำจำนวนทั้งสิ้น 492 ถ้ำ ภายในเป็นที่บรรจุพุทธประติมากรรมและภาพเขียนพุทธประวัติต่าง ๆ ในอดีตกาล และส่วนใหญ่ของถ้ำแห่งนี้ใช้เป็น  สถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา ทุกตารางนิ้วของผนังถ้ำเต็มไปด้วยภาพวาดและรูปสลักทางศาสนา ถ้ำแห่งนี้มีภาพผนังกินเนื้อที่กว่า 45,000 ตารางเมตร นักโบราณคดีตะวันตกขนานนามภาพผนังแห่งนี้ว่า “ห้องสมุดบนผนัง” ถ้ำมอเกาคูดำเนินการก่อสร้างนานนับพันปี ตั้งแต่ราชวงศ์ฉินถึงราชวงศ์หยวนรวม  10 ราชวงศ์ โดยยุคทองอยู่ในช่วงกลางสมัยราชวงศ์ถัง ปัจจุบันถ้ำมอเกาคูเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่ห้ามพลาดในการเดินทางท่องเที่ยวเส้นทางสายไหม ( รวมค่าบริการรถแบตเตอรี่ )

เที่ยง            

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟความเร็วสูง เพื่อออกเดินทางสู่ เมืองถู่หลู่ฟาน

… น.  ออกเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูงขบวนที่ … สุดยอดเทคโนโลยีในการเดินทางของจีน ที่ได้รับการยกย่องว่าสะดวกสบายที่สุดเทียบเท่ากับการเดินทางด้วยสายการบินชั้นนำ ระหว่างทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามสองข้างทางของเมืองถู่หลู่ฟาน (ใช้เวลาเดินทาง 3.24 ชม. )

… น.  คณะเดินทางถึง เมืองถู่หลู่ฟาน เมืองโอเอซิสอีกแห่งบนเส้นทางสายไหม เมืองถู่หลู่ฟาน เป็นเมือง 3 ที่สุดในเขตซินเกียง คือ 1.ต่ำที่สุดในจีน โดยต่ำจากระดับน้ำทะเล 154.43 เมตร 2.ร้อนและแห้งที่สุดในจีน อุณหภูมิเฉลี่ย 35 องศาเซลเซียส เคยร้อนสูงสุดถึง 49 องศาเซลเซียส และ 3.ลมแรงสุด จึงมีโรงงานไฟฟ้าพลังลมหลายแห่ง จากนั้นนท่านเดินทางสู่ ภัตตาคาร

ค่ำ             

รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคาร

พักค้างคืน HAMPTON BY HILTON TULUFAN หรือเทียบเท่าระดับ ****

เช้า               

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านชมภูเขาเปลวเพลิง หรือเรียกว่า ฮั่วเยี่ยนซาน สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของทูรูฟาน สถานแห่งนี้ถูกกล่าวในนวนิยายไซอิ๋ว ตอนที่ซุนหงอคงไปยืมพัดกายสิทธิ์ จากองค์หญิงพัดเหล็ก มาดับไฟในภูเขาเพลิงแห่งนี้ เพื่อให้พระถังซำจั๋ง เดินทางผ่านไปอัญเชิญพระไตรปิฎกที่อินเดีย ภูเขาเพลิงแห่งนี้ลักษณะเป็นเขาหินสีแดงทั้งลูก ไม่มีต้นไม้ใบหญ้ มองแต่ไกลจะเห็นภูเขาทั้งลูกคล้ายไฟกำลังลุกไหม้ จากนั้นนำชม ถ้ำพระพันองค์ ซึ่งเป็นมรดกโลกที่สำคัญของจีนโบราณอันลือชื่อในวงการศิลปกรรมโลกประกอบด้วยถ้ำใหญ่น้อยกว่า 490 ถ้ำ ซึ่งเจาะตามผนังเขา มีภาพเขียนและรูปปั้นเกี่ยวกับ  พระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก เฉพาะที่เขียนด้วยสีงดงามวิจิตรตระการตามีมากถึง 45,000 ตร.ม. รูปปั้นกว่า 2,000 องค์ มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์เว่ยถังหยวน ชมภาพบนกำแพงที่แกะสลักหุ่น 500 กว่าตัวที่มีชื่อเสียงและได้รับการดูแลรักษาไว้ตลอดมา จากนั้นนำท่านไปชม บ่อน้ำคันเอ๋อจิ่ง ระบบชลประทานใต้ดินของหลู่ฟาน ซึ่งมีการต่อท่อเพื่อนำน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งบนภูเขาสูงลงมายังที่ราบแถบโอเอซิส โดยการขุดท่อใต้ดินเพื่อป้องกันการ  ระเหยของน้ำในฤดูร้อน

เที่ยง            

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย               

จากนั้นนำท่านชม เมืองโบราณเกาชาง นั่งรถแบตเตอรี่เพื่อชมเมืองโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน เนื้อที่กว้างถึง 20 ตาราง  กิโลเมตร กษัตริย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ จวี้ เหวินไท้ พระองค์  เลื่อมใสศรัทธาพระถังซัมจั๋งเป็นอย่างมาก จึงสร้างโรงธรรมให้พระถังซัมจั๋งใช้เป็นที่เทศนาพระธรรมให้กับพระราชวงศ์ ขุนนาง และประชาชน ( รวมค่าบริการรถแบตเตอรี่ )ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองอูหลู่มู่ฉี เขตปกครองตนเองซินเจียง ชื่อเดิมคือ ซีเฉิง แปลว่า เมืองทางตะวันตก ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เป็นพื้นที่เขตปกครองที่ใหญ่ที่สุดของจีน เป็นถิ่นที่ได้รับสมญานามว่า “ดินแดนแห่งทุ่งหญ้าอันสวยงาม” อูหลู่มู่ฉี เป็นต้นกำเนิดแห่งบทเพลงอันคลาสสิกและโรแมนติก ตั้งอยู่บนท้องทุ่งที่ราบ ทางตอนเหนือของแนวเทือกเขาเทียนซาน เป็นเมืองหลวงของเขตปกครองตนเองซินเจียง เมืองอูหลู่มู่ฉี นับเป็นเมืองใหญ่ระดับเมืองหลวงที่อยู่ห่างไกลจากชายฝั่งทะเลมากที่สุดในโลก ก่อนที่อูหลู่มู่ฉีจะได้รับการจัดตั้งให้เป็นเมืองนั้น เคยเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตรอันกว้างใหญ่ไพศาล ได้จัดตั้งขึ้นเป็นเมืองครั้งแรกในราชวงศ์ถัง เมื่อเส้นทางสายไหมได้มีการค้าขายเจริญเติบโตมากขึ้น เมืองแห่งนี้จึงได้เป็นจุดแวะพักของกองคาราวานตามเส้นทางสายไหม

ค่ำ                

รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคาร

พักค้างคืน MERCURE HOTEL URC หรือเทียบเท่าระดับ ****

เช้า                

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เทือกเขาเทียนซาน ที่มีความยาวกว่า 1,000  กิโลเมตรมีความสูงโดยเฉลี่ย   5,445 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ระหว่างทางรถวิ่งผ่านทิวทัศน์อันสวยงามของทิวเขาที่ถูกปกคลุม  ด้วยน้ำแข็งตลอดทั้งปี  ผ่านกระโจมชนพื้นเมือง จากนั้นเปลี่ยนเป็นรถอุทยานขึ้นสู่เทียนซาน แล้วนั่งรถพลังงานแบตเตอรี่ (ไป-กลับ) สู่จุดชมวิวนำชมความงามของธรรมชาติที่ในระดับความสูง 1,900 เมตร ชม “ทะเลสาบเทียนฉือหรือทะเลสาบสีน้ำเงิน” เป็นทะเลสาบกลางหุบเขาที่มีชื่อเสียงว่าสวยงามดุจสรวงสวรรค์ จากนั้นนำท่านล่องเรือใน ทะเลสาบเทียนฉือ หรือ ทะเลสาบสรวงสวรรค์ ท่านจะได้เพลิดเพลินกับความงาม และบรรยากาศที่ งดงามไม่แพ้แชงกรีล่าและจิ่วจ้ายโกว ชมทะเลสาบกลางหุบเขาที่สวยงาม ซึ่งจะทำให้นึกถึงภาพยนตร์เรื่อง “เดอะซาวน์ออฟมิวสิค”ได้ล่องเรือชมทัศนียภาพ โดยรอบของทะเลสาบ (รวมค่าบริการรถแบตเตอรี่)

เที่ยง            

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย               

จากนั้นนำท่านเดินทางกลับ เมืองอูหลู่มู่ฉี เป็นพื้นที่เขตปกครองที่ใหญ่ที่สุดของจีน เป็นถิ่นที่ได้รับสมญานามว่า “ดินแดนแห่งทุ่งหญ้าอันสวยงาม” อูหลู่มู่ฉี เป็นต้นกำเนิดแห่งบทเพลงอันคลาสสิกและโรแมนติก ระหว่างทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามของดินแดนแห่งทุ่งหญ้าและดอกไม้ ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ ตลาดพื้นเมืองต้าปาจา ตลาดพื้นเมืองที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองอูหลู่มู่ฉี จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง เช่น อัลมอนด์, วอลนัท, กีวีอบแห้ง, ลูกเกด ฯลฯ แล้วยังมีสินค้าประเภทเครื่องดนตรีพื้นเมือง รวมถึงเครื่องทองเหลือง เช่น แจกัน, กาน้ำชา เป็นต้น อิสระให้ท่านได้เลือกชมเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย

ค่ำ               

รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคาร

พักค้างคืน MERCURE HOTEL URC หรือเทียบเท่าระดับ ****

เช้า              

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม  ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบิน

12.50 น.         

คณะทัวร์อำลา เมืองอูหลู่มู่ฉี เดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินสายการบินไชนาเซาเทิร์นแอร์ไลน์ เที่ยวบิน CZ6883/CZ361 (1250-1800/2005-2200) แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินนานาชาติกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน

22.00 น.           

คณะเดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ … พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม