ทัวร์แคนาดาฝั่งตะวันตก 10 วัน KE

0
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ชื่อ-นามสกุล*
อีเมล*
เบอร์โทรติดต่อ*
จำนวนผู้เดินทาง*
* I agree with Terms of Service and Privacy Statement.
Please agree to all the terms and conditions before proceeding to the next step
บันทึกโปรแกรมทัวร์

Adding item to wishlist requires an account

763
ทัวร์แคนาดาฝั่งตะวันตก 10 วัน KE
Tour Details
  • โรงแรมระดับมาตรฐานสากลระดับ 4 ดาว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
  • รถโค้ชปรับอากาศมาตรฐาน พร้อมคนขับที่ชำนาญเส้นทาง
  • หัวหน้าทัวร์ที่มีประสบการณ์ มีความรับผิดชอบสูง ให้บริการ และอำนวยความสะดวกอย่างใกล้ชิด
Itinerary

วันที่ 1กรุงเทพฯ ( สนามบินสุวรรณภูมิ) – แวนคูเวอร์

07.00 น.       

คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินโคเรียนแอร์ (KE) เจ้าหน้าที่ วาริต้า ทราเวล คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระ และบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง

09.50 น.       

ออกเดินทางสู่ แวนคูเวอร์ โดยเที่ยวบินที่  KE660/KE071 (0950-1735/1850-1240) ä บริการอาหาร และเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน ระหว่างการเดินทางท่านจะได้รับการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่ พร้อมรับการบริการอันสุดแสนประทับใจ เพลิดเพลินกับจอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่งรับชมโปรแกรมความบันเทิงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์นานาชาติ เพลงสากล สารคดี ช่องกีฬาต่างๆ แวะเปลี่ยนเครื่องที่ สนามบินอินชอนประเทศเกาหลีใต้

——–——————————เครื่องบินบินข้ามเส้นแบ่งเวลาสากล—————————————–

วันที่ 2แวนคูเวอร์ - สะพานคาปิลาโน่ - สวนสาธารณะสแตนลีย์ ปาร์ก

12.40 น.      

คณะเดินทางถึง สนามบินแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา เป็นเมืองท่าชายฝั่งที่มีชื่อเสียงทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐ และในภูมิภาคแปแซิฟิก หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางสู่ สะพานคาปิลาโน่  (Capilano Suspension Bridge) สะพานแขวนที่มีความยาวถึง 450 ฟุต และมีความสูงจากระดับของแม่น้ำคาพิลาโน่ที่อยู่เบื้องล่างถึง 230 ฟุต สะพานแขวนแห่งนี้แข็งแรงมากสามารถรองรับเครื่องบินรบได้ถึง 10 ลำ ได้ในคราวเดียวกัน ขณะที่  ท่านเดินข้ามเหวลึกนั้นจะทำให้ท่านรู้สึกเหมือนกำลังบินร่อนอยู่กลางหุบเขา และเมื่อท่านเดินข้ามสะพานไปอีกด้าน ก็จะได้ะได้พบกับป่าไม้แบบเขตร้อนชื้นซึ่งมีแม่น้ำคาปิลาโน่ ไหลเชี่ยวกรากอยู่เบื้องล่างที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์นานาชนิด สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางไปชม สวนสาธารณะสแตนลีย์ ปาร์ก  (Stanley Park) ซึ่งตั้งอยู่ใจลางเมืองแวนคูเวอร์เป็นเหมือนเกาะยื่นลงไปในเบอร์ราดอินเล็ต มีพื้นที่กว่า 10,000  เอเคอร์ ในสวนมีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีอายุนับ 100 ปี ลอร์ดสแตนลีย์ผู้ว่าการเขตปกครองแคนาดาเป็นผู้ริเริ่มให้สร้างสวนแห่งนี้ขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1888 จุดเด่นของสวนสาธารณะที่นักท่องเที่ยวเข้าไปชมกันมากที่สุดคือ กลุ่มเสาโทเทม (Totem) เสาสัญลักษณ์ที่ตั้งไว้เพื่อเป็นที่ระลึกว่าบริเวณนี้เคยเป็นถิ่นที่อยู่ของชนพื้นเมืองอินเดียนี้มาก่อน ซึ่งในสมัยก่อนชนพื้นเมืองใช้เสาโทเทมเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเผ่า เป็นที่เก็บอัฐิของคนตายหรือสถานที่ประจานศัตรูกลุ่มเสาแห่งนี้ได้ถูกนำมาจากที่ต่างๆ กัน เป็นการรวมเอาเสาโทเทมแบบต่างๆ ที่ชาวพื้นเมืองในท้องถิ่นนี้

ค่ำ               

รับประทานอาหารค่ำ ณ  TIAN SHI FU RESTAURANT หลังมื้ออาหารนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก

พักค้างคืน ณ  RIVER ROCK RESORT

วันที่ 3คีโลว์น่า - ทะเลสาบโอคานาแกน - ไวน์เทสติ้ง - ถนนทรานแคนาดา - รีเวลสต๊อค

เช้า              

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ออกเดินทางสู่ เมืองคีโลว์น่า (Kelowna) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐบริติชโคลัมเบีย ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมทิวทัศน์ความสวยงามสองข้างทางเต็มไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยพันธ์ไม้นานาชนิดที่จะเริ่มผลัดใบในช่วงฤดูใบไม้ร่วงทำให้เกิดสีสันสวยงามสะดุดตา  โดยภูมิประเทศชองเมืองตั้งอยู่ริมทะเลสาบโอคานา

แกน ซึ่งเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ มีสภาพภูมิอากาศที่กึ่งแห้ง และอบอุ่นเหมาะแก่การปลูกองุ่น และสวนผลไม้ อาทิเช่น เชอร์รี่ ลูกพีช แอปเปิ้ล   โดยเฉพาะการปลูกองุ่นเพื่อผลิดตไวน์ถือว่าเป็นสินค้าขึ้นชื่อของเมืองนี้ จากนั้นนำท่านชมไร่องุ่นพร้อมกับ ทดลองชิมไวน์ยอดนิยมที่มีทั้งไวน์แดง และไวน์ขาว

เที่ยง           

รับประทานอาหารกลางวัน ณ  DRAGON KING KELOWNA

บ่าย             

นำท่านชมความงดงามของ ทะเลสาบโอคานาแกน (Okanagan Lake) ที่มีเรื่องเล่าขานว่าพบสัตว์ประหลาดโอโกโปโกะที่มีชื่อเสียงและมีผู้พบเห็นนับพันครั้ง ทะเลสาบแห่งนี้มีความยาวถึง 270 กม.และมีความลึกเฉลี่ยนประมาณ 100 เมตร รอบ ๆ ทะเลสาบมีผู้คนมาตั้งถิ่นฐานกันเป็นจำนวนมากจ นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และอีกสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของที่นี่คือเรือกลไฟ ยานพาหนะที่ใช้สัญจรระหว่างเมืองที่อยู่ริมทะเลสาบนั้นเอง จากนั้นนำท่านเดินทางผ่านเส้นทางทรานแคนาดา ทางหลวงหมายเลข 1  ถนนสาย  สำคัญที่ตัดผ่านประเทศแคนาดาจากตะวันตกสู่ตะวันออกมีความยาว 7,476 กม. ถือถ้าว่าเป็นเส้นทางคมนาคมทาง บกที่สำคัญที่สุดของประเทศ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองรีเวลสต๊อก เมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโคลัมเบีย แม่น้ำขนาด  ใหญ่ที่มีความสวยงาม ตัวเมืองตั้งอยู่นบริเวณของอุทยาน  แห่งชาติรีเวลสต๊อก ซึ่งถือได้ว่าเป็นเมืองประตูสู่เทือกเขาแคนาเดียนร๊อกกี้ ท่านจะได้ชมความงดงามของตัวเมืองโดยรอบ มีฉากหลังของภูเขาที่มีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดทั้งปี

ค่ำ               

รับประทานอาหารค่ำ ณ  DENNY’S หลังมื้ออาหารนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก

พักค้างคืน ณ FAIRFIELD IN & SUITES BY MARRIOTT REVELSTOKE

 

วันที่ 4กราเซียเนชั่นปาร์ค - อุทยานแห่งชาติแบมป์ - นั่งกระเช้ายอดเขาซัลเฟอร์ - น้ำตกโบว์

เช้า              

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ เทือกเขาร๊อกกี้ ผ่านเส้นทางคดเคี้ยวทรานแคนาไฮเวย์ ตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามของยอดเขาต่าง ๆ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะพร้อมกับยังมีกราเซียขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนภูเขา นอกจากนี้สองข้างทางยังเต็มไปด้วยเหล่าพันธ์ไม้ต่างๆ ที่ทยอยผลัดใบเริ่มเปลี่ยนเป็นสีสันแดงเหลือง สวยงามเกินบรรยาย จากนั้นนำท่านชมความสวยงามของ อุทยานกลาเซียร์เนชั่นปาร์ค ณ จุดชมวิว โรเจอร์ พาส ROGER PASS ท่านจะได้ชมยอดเขาเมาท์โรเจอร์ ซึ่งด้านบนเป็นกราเซียขนาดใหญ่อายุนับพันปีโดยอุทยานแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นผืนป่าที่มีความสมบูรณ์เป็นอย่างมากมีพันไม้นานาชนิดที่ขึ้นปกคลุมทั้ง  ภูเขา นอกจากนี้ยังมีสัตว์ป่าต่าง ๆ อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

เที่ยง            

รับประทานอาหารกลางวัน ณ  LAKE LOUISE VILLAGE GRILL & BAR

บ่าย             

นำท่านเดินทางสู่ เมืองแบมฟ์ (Banff) เมืองเล็กๆที่เป็นปากทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ ตั้งอยู่ในหุบเขาชื่อ โบว ริเวอร์วัลเล่ย์ (Bow River Valley) ที่มีฉากหลังเป็นเทือกเขาแคสเคดที่มีความสูงถึง 2,998 เมตร ประวัติของเมืองมีอยู่ว่าในปี ค.ศ. 1880 ลอร์ด สตาร์ชโคนา มาเยือนชุมชนแห่งนี้ และเกิดความประทับใจ ในความงามของภูมิประเทศจึงตั้งชื่อเมืองตามชื่อเมืองแบมฟ์เชียร์ อันเป็นบ้านเกิดของท่านแบมฟ์ (Banff) เป็นเมืองเล็กๆ จากนั้นออก  เดินทางสู่ เทือกเขาซัลเฟอร์ (Sulphur Mountain) ภูเขาสูงที่เป็นจุดกำเนิดของบ่อน้ำร้อนในอุทยานแห่งชาติ เมื่อฝนตกลงที่ยอดเขาน้ำฝนจะไหลผ่านชั้นกำมะถันลงไปรวมกันในทางน้ำใต้ดิน ที่ได้รับความร้อนจากใต้โลกสะสมมากเข้า น้ำที่ไหลออกมาจากพื้นดินใต้ภูเขาจะกลายเป็นน้ำร้อน ซึ่งบางแห่งไม่มีทางน้ำไหลทำให้น้ำร้อนใต้ดินพุ่งออกมาตามรอยปริแตกของชั้นหินกลายเป็นน้ำพุร้อนขึ้นมา นำท่านสู่ สถานีรถกระเช้า ชื่อว่า Sulphur Mountain Gondola Lift เพื่อขึ้นกระเช้าไปยังยอดเขา นำท่าน นั่งกระเช้าขึ้นสู่จุดชมวิว บนยอดเขาซัลเฟอร์ ซึ่งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 2,285 เมตร บนยอดเขามีทางเดินไปยังส่วนที่สูงที่สุดของยอดเขา คือ ยอดแซนซัน (Sanson Peak) สูง 2,337 เมตร บนเทือกเขามีอาคารที่ทำการสำหรับนักพยากรณ์อากาศ ซึ่งชาวแคนาดา เรียกอาคารนี้ว่า “รังนกอินทรี” อาคารนี้เป็นสถานที่ซึ่งนักพยากรณ์อากาศชื่อนอร์มัน แซนซัน (Norman Sanson) ใช้เป็นสถานที่ทำงานในการพยากรณ์อากาศเมื่อปี ค.ศ. 1903 จากนั้นนำท่านเดินทางไปแวะ Surprise Corner จุดชมวิวที่ห้ามพลาด ตรงบริเวณนี้ท่านจะเห็นฉากหลังเป็นโรงแรม Fairmont Banff Springs ที่ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาร็อกกี้ และแม่น้ำโบว์ที่มีต้นสายมาจากเทือกเขาร็อกกี้ ไหลผ่านมาตามช่องเขาไหลยาว ถือเป็นแม่น้ำสายสำคัญของรัฐอัลเบอร์ต้า แวะบันทึกภาพและชม น้ำตกโบว์ (Bow Falls) น้ำตกที่เกิดจากการละลายของน้ำแข็ง จนกลายเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำอีกทั้งเคยเป็นฉากสำคัญในภาพยนตร์ชื่อก้องในอดีตเรื่อง The river of no return นำแสดงโดย มาริลีน มอนโร

ค่ำ               

รับประทานอาหารค่ำ ณ  SILVER DRAGON RESTAURANT หลังมื้ออาหารนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก

พักค้างคืน ณ Banff caribou lodge & spa

วันที่ 5ทะเลสาบเลคหลุยส์ - ทุ่งน้ำแข็งโคลัมเบียร์ไอซ์ฟิลด์ - แจสเปอร์เนชั่นปาร์ค

เช้า              

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางชม ทะเลสาบหลุยส์ (Lake Louise) เป็นทะเลสาบที่มีชื่อของรัฐอัลเบอร์ตา ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแบมฟ์  ชาวยุโรปคนแรกที่มาเห็นความงามของทะเลสาบหลุยส์ คือ นักสำรวจชื่อ ทอม วิลสัน (Tom Wilson) ค้นพบเมื่อปี ค.ศ. 1882 เมืองเลคหลุยส์เดิมเป็นเมืองชนบทเล็กๆที่ใช้เป็นที่พักคนงานที่อยู่ต่ำกว่าทะเลสาบ ชุมชนนี้มีชื่อว่า Holt City ต่อมาใน ปี ค.ศ. 1914 จึงได้ชื่อใหม่ว่า Lake Louise เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าหญิงหลุยส์ คาโรไลน์ อัตเบอร์ตา พระธิดาองค์หนึ่งของควีนวิกตอเรีย เนื่องจากเจ้าหญิงได้ติดตามพระสวามีซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการของอังกฤษมาอยู่ในแคนาดา จึงได้ชื่อตามพระนามของเจ้าหญิง ทะเลสาบหลุยส์ตั้งอยู่เหนือเมือง และสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,730 เมตร รายล้อมด้วยเทือกเขาที่มีหิมะขาวโพลนปกคลุมยอดเขาตลอดปี ตัดกับน้ำใน ทะเลสาบเป็นสีเขียวมรกต จึงได้ชื่อว่า “ทะเลสาบมรกต” หากสภาพอากาศดีน้ำนิ่งจะสามารถมองเห็นเงาสะท้อนของภูเขาผ่านกระจกบนท้องน้ำสำหรับคนที่ต้องการไปดูธารน้ำแข็งทะเลสาบแห่งนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางด้วย ให้อิสระในการเดินชมความสวยงามของทะเลสาบตามอัธยาศัย

เที่ยง            

รับประทานอาหารกลางวัน ณ  THE CROSSING RESORT

บ่าย            

นำท่านสู่ ทุ่งน้ำแข็งโคลัมเบียร์ไอซ์ฟิลด์ (Columbia Icefield) ตั้งอยู่ที่ทางแยกของบริติชโคลัมเบีย และอัลเบอร์ตา เป็นทุ่งน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในเทือกเขาร็อคกี้ (Canadian Rocky) ทุ่งน้ำแข็งอยู่ระหว่างเทือกเขาโคลัมเบียที่ระดับ  ความสูง 3,747 เมตร  (12,294 ฟุต) ทางตะวันตก และเทือกเขาอทาบาสก้า  (Athabasca) ที่ระดับความสูง 3,491 เมตร (11,452 ฟุต) ทางตะวันออก มีอุทยานแห่งชาติแจสเปอร์อยู่ทางทิศใต้ และมีทางหลวงไปยังอุทยานแห่งชาติแบมฟ์ทางตะวันออก จากนั้นเปลี่ยนการเดินทางเป็น รถ Snow Coach นำท่านมุ่งหน้าสู่ ลานน้ำแข็งโคลัมเบียร์ไอซ์  ฟิลด์ ธารน้ำแข็งที่มีอายุหลายล้านปี ซึ่งมีขนาดใหญ่พอๆ กับเมืองๆ หนึ่ง ลักษณะเป็นเนินเขาที่มีหิมะปกคลุมหนาเป็นเมตร เรียกได้ว่าเป็นดินแดนสวรรค์ของนักสกี  ชมความงดงามของธารน้ำแข็งอันขาวโพลนกว้างไกลสุดสายตานับเป็นไอซ์ฟิลด์ขนาดใหญ่ของเทือกเขาร็อกกี้ และธารน้ำแข็งเพย์โต้กลาเซียร์ สนุกสนานตื่นเต้นไปกับการเก็บภาพความทรงจำและความสวยงามของทุ่งน้ำแข็งขนาดใหญ่ในแคนาดาแห่ง หลังจากนั้นนำท่านออกเดินทางต่อไปยัง เมืองแจสเปอร์ (Jasper) ซึ่งตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติแจสเปอร์ (Jasper National Park) อุทยานขนาดขนาดใหญ่ที่สุดของเทือกเขาร็อกกี้ที่น้อยคนนักถึงจะรู้จัก ภายในอุทยานเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลากหลายทั้งน้ำตก, แคนย่อน, ธารน้ำแข็ง, ทะเลสาบ และโคลัมเบียไอซ์  ฟิลด์ (Columbia Icefield)  เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของเหล่าคนชอบกิจกรรมนอกสถานที่ทั้งปั่นจักรยาน, สกีหรือพายเรือคายัค เป็นต้น ระหว่างทางแวะชม น้ำตกอทาบาสกา (Athabasca Falls) เป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในประเทศแคนาดา และเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในอุทยานแห่งชาติแจสเปอร์ อยู่ภูมิภาคทางตอนเหนือของแม่น้ำอทาบาสกาห่างจากเมืองแจสเปอร์มาทางใต้ประมาณ 30 กิโลเมตร ด้วยน้ำอันเกิดจากธารน้ำแข็งยักษ์ใน โคลัมเบีย ไอซ์ฟิลด์ที่ละลาย และไหลลงสู่แม่น้ำอทาบาสกาก่อให้เกิดเสียงกระทบระหว่างน้ำ หินควอร์ไซต์  และปลายทางของธารน้ำ เป็นเสียงที่ไพเราะ และทรงพลังจากธรรมชาติสรรสร้าง โดยตัวน้ำตกมีความสูงถึง 23 เมตร ความพิเศษของน้ำตกอยู่ที่สีสันของน้ำจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล หรือแม้ระหว่างวันที่ถูกแสงแดดกระทบ อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย   

 ค่ำ              

รับประทานอาหารค่ำ ณ  KIMCHI HOUSE หลังมื้ออาหารนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก

พักค้างคืน ณ  Jasper Inn & Suites by INNHotels

 

วันที่ 6ทะเลสาบมรกต - แจสเปอร์ - ภูเขาร็อบสัน เมืองแคมลูปส์

เช้า              

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่าเดินทางเข้าสู่ ทะเลสาบมรกต EMERALD LAKE เป็นทะเลสาบสีเขียวมรกตที่สวยงาม ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติโยโฮในรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ล้อมรอบด้วยภูเขาสูง ต้นไม้สีเขียวขจี อากาศที่สดชื่น พร้อมทัศนียภาพที่สวยงาม โดยเส้นทางการเดินป่านั้นมีระยะทางประมาร 5.2 กิโลเมตร สำหรับในช่วงฤดูหนาวนำในทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง และพื้นที่แห่งนี้ก็ได้กลายเป็นลานสกีขนาดใหญ่ ทุกท่านจะได้รับชมความงดงามของวิวทิวทัศน์ อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย 

 

เที่ยง           

รับประทานอาหารกลางวัน ณ  KICKING HORSE PALACE

บ่าย            

นำท่านเดินทางสู่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวภูเขาร็อบสัน (Mount Robson Visitor Centre) เพื่อให้ท่านได้ชมและถ่ายรูปความสวยงามของ ภูเขาร็อบสัน (Robson Mountain) จุดที่สูงที่สุดของภูเขารอคกี้ (Rocky Mountain) จากนั้นออกเดินทางต่อใหท่านได้เพลิดเพลินไปกับธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำชมหุบเขาที่เป็นที่อยู่อาศัยหมีกริซลี่ ผ่านบรรยากาศของป่าฝนเขตร้อนเพียงแห่งเดียวในโลก หากโชคดีสามารถมองเห็นเหล่าสัตว์ท้องถิ่น ทั้งหมีกริซลี่, กวางมูส, นกอินทรี และสัตว์ป่าอื่นๆ อีกมากมาย นำท่านแวะชม แม่น้ำบลู (Blue River) ก่อนเดินทางไปยัง เมืองแคมลูปส์ เป็นเมืองแสนสุขใจกลางรัฐบริติชโคลัมเบีย ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำทอมสัน (Thompson) สายเหนือไหลมาบรรจบกับสายใต้ นำท่านแวะถ่ายรูปที่ ทะเลสาบแคมลูปส์ (Kamloops Lake) เยี่ยมชมชายฝั่งของทะเลสาบที่มีลักษณะคล้ายโอเอซิสท่ามกลางภูเขาแห้ง มีความน่าสนใจเนื่องจากเป็นสถานที่ที่ชาวอะบอริจินอาศัยอยู่ โดยพวกเขาดำเนินชีวิตกึ่งเร่ร่อน ล่าสัตว์ตกปลาในช่วงฤดูร้อน ส่วนในช่วงฤดูหหนาวก็จะตั้งรกรากเพื่อหลบหนาว ต่อมาชาวยุโรปเริ่มเข้ามาค้าขายขนสัตว์ ทำฟาร์มปศุสัตว์ ทำเหมืองจนทิศทัศน์เปลี่ยนไปจากเดิม

ค่ำ               

รับประทานอาหารค่ำ ณ  LOTUS INN RESTAURANT หลังมื้ออาหารนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก

พักค้างคืน ณ  BEST WESTERN PERMIER ABERDEEN KAMLOOPS

 

วันที่ 7แคมลูปส์ - อุทยานซุสเวค พาร์ค - ชมฝูงปลาแซลม่อน - แม่น้ำอดัมส์ - แวนคูเวอร์

เช้า              

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อุทยานซุสเวก พาร์ค  Tsutswecw Provincial Park  ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1977 เพื่ออนุรักษ์และปกป้องแหล่งวางไข่ของปลาแซลมอนสายพันธุ์ต่างๆ โดยพื้นที่ที่ครอบคลุมตามแนวแม่น้ำอดัมส์ได้รับการครอบครองและคุ้มครองโดย The Nature Trust of British Columbia ซึ่งเป็นแหล่งวางไข่ของปลาซ็อกอาย ชินุก โคโฮ และปลาแซลมอนสีชมพู โดยในช่วงประมาณปลายเดือนกันยายนจนถึงเดือนตุลาคมจะเป็นช่วงเวลาที่ปลาแซลมอลสายพันธุ์ต่าง ๆ จะว่ายทวนน้ำเพื่อขึ้นมาวางไข่เป็นจำนวนมาก (ช่วงเวลาจะขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศของแต่ละปี) นอกจากนี้ยังมีสัตว์ป่าจำนวนมากที่มาชุมนุมกันในบริเวณอุทยานแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นกวางหางขาว หมีดำ หมีกรีซลี่ บีเวอร์ นากแม่น้ำ และตัวมิงค์ และที่พบได้บ่อยที่สุดคือนกอินทรีที่จะคอยบินโฉบมาจับปลาอยู่เป็นจำนวนมาก (ในบางปีจะมีครอบครัวหมีกรีซลี่มาคอยดักจับปลาแซลม่อนที่กำลังว่ายน้ำขึ้นไปวางไข่)

เที่ยง            

รับประทานอาหารกลางวัน ณ  NEPTUNE SEAFOOD RESTAURANT

บ่าย            

นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองแวนคูเวอร์ (Vancouver) แห่งรัฐบริติชโคลัมเบีย ตั้งอยู่ระหว่างทะเลแปซิฟิค และเทือกเขาร็อคกี้ ซึ่งมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่สวยงามมาก เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดาตะวันตก และเมืองที่มีธรรมชาติที่สวยงามน่าประทับใจ และติดอันดับเมืองที่สวยงามเมืองหนึ่งของโลก ระหว่างทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามสองข้างทาง แวะถ่ายรูปกับจุดชมวิวต่าง ๆ  ที่สวยงาม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ดีไซเนอร์เอาว์เลท MCARTHURGLEN DESIGNER OUTLET ท่านจะได้สนุกสนานกับการเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมนานาชนิดไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ของใช้ต่าง ๆ ที่พร้อมใจกันลดราคาอย่างจุใจ

ค่ำ               

รับประทานอาหารค่ำ ณ  YOKOHAMA TEPPANYAKI & SUSHI BAR จากนั้นนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก

พักค้างคืน ณ  RIVER  ROCK  RESORT

วันที่ 8 เมืองวิกตอเรีย - เมืองแห่งสวน - อาคารรัฐสภา - สวนบีคอนฮิลล์ - เสาโทเทม - สวนบูชาร์ด

เช้า              

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านนั่ง เรือเฟอร์รี่ข้ามช่องแคบจอร์เจีย อันสวยงามสู่ เกาะวิคตอเรีย เมืองหลวงของรัฐบริติชโคลัมเบีย ระหว่างทางถ้าโชคดีท่านอาจจะมีโอกาสเห็นฝูงโลมา และปลาวาฬเพชฌฆาตว่ายวนอยู่ในบริเวณอ่าว จากนั้นนำท่านชม เมืองวิกตอเรีย (Victoria) ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งสวน” (City of Gardens) อีกทั้งยังเป็นเมืองหลวงของรัฐบริติชโคลัมเบีย (British Columbia) รัฐ

หนึ่งของประเทศแคนาดา นำท่านเที่ยวชมและถ่ายรูปที่ระลึกกับ อาคารรัฐสภาในเมืองวิกตอเรีย (British Columbia Parliament Buildings) โดยตัวอาคารนั้นตั้งอยู่ใจกลางเมืองวิกตอเรีย อาคารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1893-1896 จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ รูปปั้นพระนางเจ้าวิคตอเรียแห่งประเทศอังกฤษ นำท่าน  ชม สวนบีคอนฮิลล์ (Beacon Hill Park) อีกหนึ่งพื้นที่สีเขียวที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมือง โดยส่วนแห่งนี้มีพื้นที่ 7ไร่ (185 เอเคอร์) อยู่ติดกับชายฝั่งทางตอนใต้ของเมืองวิกตอเรีย ซึ่งสิ่งที่โดดเด่นที่สุดภายในส่วนก็คงจะเป็น “โทเทม” (Totem) หรือ “เสาโทเทม” (Totem pole) ซึ่งมีความสูงประมาณ 38.8 เมตร (127 ฟุต) จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ปราสาทเครกดารอค (Craigdarroch Castle Historical Museum) ซึ่งภายในมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยุควิกตอเรียน และเป็นอีกหนึ่งอาคารที่ถูกกำหนดให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติของแคนาดา อิสระให้ท่านเดินเล่น ตามอัธยาศัย

เที่ยง           

รับประทานอาหารกลางวัน ณ  THE OLD SPAGHETTI FACTORY

บ่าย            

จากนั้นนำท่านเข้าชม สวนบูชาร์ด (Butchart Gardens) สวนดอกไม้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสวนดอกไม้ที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งมีอายุมากว่า 100 ปี จากการชอบตกแต่งสวนของครอบครัวบูชาร์ด นำท่านชมสวนดอกไม้ และเดินชมบริเวณสวนที่ถูกจัดแต่งในหลากหลายรูปแบบหลากหลายสไตล์ มีทั้งการจัดสวนแบบชังเค่น, สวนแบบอังกฤษ, สวนญี่ปุ่น ฯลฯ อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึก, ของตกแต่งบ้านและสวน, ภาพเขียน และพันธุ์ไม้ต่างๆ ภายในร้านขายของที่ระลึกสวนบูชาร์ดตามอัธยาศัย ก่อนนำท่านนั่งเรือเฟอร์รี่กลับสู่ เมืองแวนคูเวอร์

ค่ำ               

รับประทานอาหารค่ำ ณ  BAIYULAN SHANGHAI CUISINE หลังมื้ออาหารนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก

พักค้างคืน ณ  RIVER  ROCK  RESORT

วันที่ 9เมืองแวนคูเวอร์ - สถานีรถไฟแคนาเดียนแปซิฟิก - แคนาดาเพลส - ย่านแกสทาวน์ - กรุงเทพ

เช้า              

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

 นำท่านเดินทางเข้าสู่ ตัวเมืองแวนคูเวอร์ ผ่านชม ย่านไชน่าทาวน์ ซึ่งมีชาวจีนอาศัยอยู่มากมายอย่างถูกกฎหมายราว 400,000 คน นำท่านชมอาคารที่ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมโดดเด่นอันน่าสนใจ คือ สถานีรถไฟแคนาเดียนแปซิฟิก (Canadian Pacific Railway Station) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1880 เป็นสถานีชุมทางรถไฟสายข้าม  ทวีป ปัจจุบันเป็นสถานีรถลอยฟ้ากับเรือข้ามฟากของเมืองแวนคูเวอร์  สมควรแก่เวลานำท่านแวะถ่ายรูปกับ แคนาดาเพลส (Canada Place) สถาปัตยกรรมหลังคารูปใบเรือสีขาว คล้ายโรงโอเปร่าเฮาส์ของนครซิดนีย์ (ออสเตรเลีย) หลังคาใบเรือนี้เดิมสร้างขี้นเป็นหลังคาของ Canada Pavilion ในงาน  World’s Fair ที่จัดขึ้นที่แวนคูเวอร์เมื่อปี ค.ศ. 1986 จากนั้นนำท่านเที่ยวชม ย่านแกสทาวน์ (Gastown) เป็นชุมชนแรกของคนที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริติชโคลัมเบียก่อนที่จะมาเป็นแวนคูเวอร์อย่างที่รู้จักกัน เดิมแกสทาวน์เป็นเมืองของคนทำไม้ที่มีชีวิตเงียบเหงาอยู่ในป่า เมื่อแจ็คดีห์ตัน (Gass Jack Deighton) ชาวอังกฤษจากเมืองยอร์กเชียร์มา  เปิดบาร์ขายเหล้าให้พวกกรรมกรที่มาทำป่าไม้ในรัฐนี้ชุมชนนี้จึงได้ชื่อว่า Gastown หรือ Gassy Town ต่อมากมีผู้คนเข้ามาสร้างบ้านเรือนและร้านค้าใกล้ๆ กับร้านของแกสซีแจ็ค ทำให้แกสทาวน์เป็นเมืองขึ้นมาจนกลายมาเป็นย่านเมืองเก่าของแวนคูเวอร์ ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวจะต้องแวะมาเยี่ยมชมแหล่งกำเนิดของเมืองแวนคูเวอร์ สำหรับเมืองแกสทาวน์มีบรรยากาศของเมืองเก่าสถาปัตยกรรม  วิกตอเรียนที่ได้รับการบูรณะใหม่ และรักษาให้อยู่ในสภาพดีจุดที่น่าสนใจคือ รูปปั้นของแกสซีแจ็ค ที่อยู่ตรงจัตุรัสกลางเมือง จากนั้นนำท่านชม นาฬิกาเรือนแรกของโลก ที่เดินได้ด้วยพลังไอน้ำ โดยนาฬิกาไอน้ำจะตั้งเสียงดังบอกเวลาทุก 15 นาทีเป็นเสียงดนตรีเสียงเดียวกับนาฬิกาบิ๊กเบนในกรุงลอนดอน และนาฬิกาจะพ่นไอน้ำพวยพุ่งออกมาทุก 1 ชั่วโมงได้เวลานัดหมายนำท่านออกเดินทางสู่สนามบิน

14.30 น.       

ออกเดินทางสู่กรุงเทพ โดยเที่ยวบินที่   KE072/KE659  ( 1430-1750/1945-2350 ) ä บริการอาหาร และเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน แวะเปลี่ยนเครื่องที่ สนามบินอินชอนประเทศเกาหลีใต้

——————————เครื่องบินบินข้ามเส้นแบ่งเวลาสากล—————————————–

วันที่ 10กรุงเทพฯ

23.50 น.           

เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ