23.30 น.
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกในประเทศ ชั้น 4 บริเวณเคาน์เตอร์ สายการบินเอมิเรตส์แอร์ไลน์ (EK) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระ และบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง
02.40 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงลอนดอน โดยสายการบินเอมิเรตส์แอร์ไลน์ (EK) โดยเที่ยวบินที่ EK419/EK015 (02.40-05.45/08.00-12.35) แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน
12.35 น.
คณะเดินทางถึง สนามบินลอนดอนแกตวิก จากนั้นนำท่านผ่านพิธีการทางสนามบินและรับกระเป๋าสัมภาระ ไกด์ท้องถิ่น และคนขับรถผู้ชำนาญเส้นทาง นำท่านเดินทางเข้าสู่ กรุงลอนดอน (LONDON) เมืองหลวงของสหราชอาณาจักร เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป มีประชากรกว่า 7.5 ล้านคน และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญทางธุรกิจการเมือง วัฒนธรรม การสื่อสาร การบันเทิง แฟชั่นและศิลปะ ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่ามีอิทธิพลไปทั่วโลก จากนั้นนำท่านเดินทางเที่ยวชมเมือง โดยเริ่มต้นที่ ทาวเวอร์ออฟลอนดอน (TOWER OF LONDON) ที่มีประวัติศาสตร์อันเกรียงไกรยิ่งใหญ่ที่มีอดีตอันยาวนาน เคยเป็นป้อมปราการ, ปราสาทราชวัง, คุก และแดนประหาร ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารและหอคอยหลายหลัง จากนั้นนำท่านชม จัตุรัสทราฟัลการ์ สแควร์ (TRAFALGAR SQUARE) จัตุรัสสำคัญกลางกรุงลอนดอน เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองนี้ และมีความสำคัญทั้งในด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการเมือง จากนั้นนำท่านชมอีกหนึ่งจัตุรัสที่มีชื่อเสียง จัตุรัสพิคคาดิลลี เซอร์คัส (PICCADILLY CIRCUS) เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด โดยจัตุรัสแห่งนี้มีชื่อเสียงจาก ป้ายโฆษณาดิจิทัลขนาดใหญ่ การคมนาคมคึกคัก และบรรยากาศที่คล้ายกับ “ไทม์ส แควร์” ในนิวยอร์ก พร้อมนำท่านชม ไชน่าทาวน์ (CHINATOWN) ย่านชุมชนคนจีนในกรุงลอนดอน ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป เต็มไปด้วยร้านอาหารจีน ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขนม ร้านขายของที่ระลึก โดยมีการตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์แบบจีนแท้ๆ เช่น โคมแดง ประตูมังกร และสถาปัตยกรรมจีนโบราณ
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน NOVOTEL LONDON WEMBLEY หรือเทียบเท่า ****
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเที่ยวชม กรุงลอนดอน เริ่มต้นจากเดินทางเข้าสู่ ถนนไวท์ฮอลล์ อาคารที่ทำการของรัฐในปัจจุบัน จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปที่ระลึกกับ พระราชวังเวสท์มินสเตอร์ (PALACE OF WESTMINSTER) ที่ตั้งของรัฐสภาอังกฤษมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 16 และอาคารหอนาฬิกาที่รู้จักกันดีในนาม บิ๊กเบน ที่มีความสูง 320 ฟุต ตีบอกเวลาทุกหนึ่งชั่วโมง เป็นนาฬิกาที่มีหน้าปัดใหญ่ที่สุดในโลก จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ ลอนดอนอาย (THE LONDON EYE) ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป มีความสูง 135 เมตร และกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมและเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างมากในสหราชอาณาจักร มี ผู้มาเยือนมากกว่า 3 ล้านคนต่อปี จากนั้นนำชม พระราชวังบั้คกิ้งแฮม (BUCKINGHAM PALACE) ที่ประทับของพระนางเจ้าอลิซาเบธที่ 2 และพระสวามี ชมการเปลี่ยนเวรยามของทหารรักษาพระองค์ในชุดเครื่องแบบเต็มยศ สวมหมวกพู่สีดำ แต่จะเปลี่ยนเป็นชุดสีเทาในฤดูหนาว ทั้งนี้การเปลี่ยนเวรยามจะถูกกำหนดโดยกระทรวงกลาโหมของอังกฤษ (THE BRITISH ARMY) 1 เดือนล่วงหน้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่สภาพอากาศและกำหนดงานพิธีของทางสำนักพระราชวัง ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ภัตตาคาร
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ ห้างแฮร์รอดส์ (HARRODS) ห้างสรรพสินค้าหรูหราบนถนนบรอมพ์ตันในเขตไนท์สบริดจ์ มีร้านค้ากว่า 330 ร้าน มี BRAND NAME ชื่อดังให้ท่านได้ช้อปปิ้งกันอย่าง มากมาย ถึงเวลานัดหมายนำท่านช้อปปิ้งกันต่อที่ย่าน ถนนอ๊อกซ์ฟอร์ด (OXFORD STREET) อันเป็นที่ตั้งของร้านค้าประเภทต่าง ๆ มากมาย อาทิ SELFRIDGES, JOHN LEWIS, DEBENHAMS, MARK & SPENCE ฯลฯ และไม่ได้มีเฉพาะห้างสรรพสินค้าเท่านั้น ถนนสายนี้ยังมีร้านค้าอีกมากกว่าสามร้อยร้าน และที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางในการเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกอันเป็นสัญลักษณ์ของลอนดอน
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน NOVOTEL LONDON WEMBLEY หรือเทียบเท่า ****
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเอเมส์บิวรี่ (AMESBURY) เป็นเมืองในเขตวิลต์เชอร์ (WILTSHIRE) เมืองที่โด่งดังด้วยการเป็นที่ตั้งของหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และเป็นเมืองที่มีการตั้งถิ่นฐานอยู่อย่างต่อเนื่องที่เก่าแก่ที่สุดในสหราชอาณาจักร นับรวมแล้วเมืองนี้มีอายุมากถึง 10,838 ปี จากนั้นนำท่านเดินทางชม สโตนเฮ้นจ์ (STONEHENGE) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกแห่งยุคกลาง กองหินหรือแนวแท่งหินที่เป็นความลับดำมืดในช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้อย่าง แน่ชัดว่าสร้างขึ้นมาทำไม และใครคือผู้สร้าง แลนด์มาร์กสุดโดดเด่นของอังกฤษ อนุสรณ์สถานโบราณอายุกว่า 4,000 ปี ที่สร้างขึ้นได้อย่างน่าพิศวง เพราะแท่งหินแต่ละแท่งนั้นมีความสูงถึง 4 เมตร กว้าง 2.1 เมตร และหนักประมาณ 25 ตัน และมีมากถึง 112 แท่ง ได้ถูกจับมาตั้งเรียงซ้อนกันเป็นวงกลม 3 วง ซึ่งคงอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน แม้ปริศนาว่าสโตนเฮนจ์ถูกสร้างขึ้นยังไง และเพื่ออะไร ยังไม่กระจ่าง แต่ก็ได้ถูกยกให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 1986
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบาธ (BATH) เมืองในหุบเขาเอวอนเมืองเก่าแก่ที่มีอายุตั้งแต่เมื่อครั้งโรมันเรืองอำนาจ จากหลักฐานบ่อน้ำพุร้อนและซากอาคารเก่าแก่ที่หลงเหลืออยู่ ทำให้เมืองบาธได้รับการแต่งตั้งเป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ในปี ค.ศ. 1987 จากนั้นนำท่านผ่านชมอาคารบ้านเรือนที่ถูกสร้างขึ้นในยุคจอร์เจียนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งอาคารรอยัลเครสเซ่น กลุ่มอาคารรูปครึ่งวงกลมที่มีสถาปัตยกรรมแปลกตา ทำให้เมืองบาธมีเสน่ห์ไม่น้อย จากนั้นนำท่านชม มหาวิหารบาธ (BATH ABBEY) ที่งดงามและเข้าชม พิพิธภัณฑ์น้ำแร่ร้อนโรมัน (ROMAN BATH MUSEUM) ซึ่งมีประวัติการค้นพบที่น่าสนใจ ปัจจุบันเป็นกลุ่มอาคารสำคัญของเมือง คือ บริเวณที่ตั้งของบ่อน้ำแร่ร้อนคิงส์ (THE SACRED SPRING) ส่วนที่สอง คือ บริเวณวัด และส่วนที่สาม คือ บริเวณที่เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวหรือชาวเมืองใช้บริการน้ำแร่ ซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำ, บ่อน้ำแร่เย็น-ร้อน, ห้องอบไอน้ำและส่วนที่เป็น TURKISH BATH สมแก่เวลานำท่านออกเดินทางสู่ เมืองคาร์ดิฟฟ์ (CARDIFF) เมืองหลวงควบตำแหน่งเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเวลส์ เป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้า วัฒนธรรม และกีฬามากมาย ด้วยสถาบัน การกีฬาหลายแห่ง และเป็นเมืองที่เพิ่งถูกตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 1905 แต่คาร์ดิฟฟ์ก็มีการพัฒนาเป็นเมืองชั้นนำอย่างรวดเร็ว โดยรอบๆ เมืองจะได้เห็นความโมเดิร์นสมัยใหม่ผสมผสานกับความเป็นเมืองเก่า ไม่ว่าจะเป็นปราสาทโบราณหลายแห่ง โบสถ์ วิหาร และพิพิธภัณฑ์มากมาย นำท่านแวะถ่ายรูปที่ระลึกด้านหน้า ปราสาทคาร์ดิฟฟ์ (CARDIFF CASTLE) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดิมเป็นที่พำนักของขุนนางผู้ปกครองเมือง จากนั้นนำท่านชม ศาลาว่าการเมือง และ พิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารโบราณเก่าแก่ ผ่านชมเมือง สวนสาธารณะคาร์ดิฟ, สนามกีฬามิลเลเนียม, อาคารที่ทำการของรัฐ ฯลฯ
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน CLAYTON HOTEL CARDIFF หรือเทียบเท่า ****
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลิเวอร์พูล (LIVERPOOL) เป็นเมืองเมโทรโพลิตันของเมอร์ซีย์ไซด์ในภาคการปกครองตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ โดยเมืองลิเวอร์พูลตั้งอยู่ทางตะวันออกของปากน้ำเมอร์ซีย์ (MERSEY ESTUARY) ก่อตั้งมาตั้งแต่ค.ศ. 1207 และได้รับฐานะเป็น “นคร” ในปี ค.ศ. 1880 ความรุ่งเรืองของเมืองลิเวอร์พูลมาจากการเป็นเมืองท่าสำคัญในคริสต์ศตวรรษที่ 18 การติดต่อค้าขายกับแคริบเบียน, ไอร์แลนด์ และแผ่นดินใหญ่อย่างยุโรป ซึ่งการติดต่อค้าขายข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ยิ่งทำให้เศรษฐกิจเติบโตมากยิ่งขึ้น จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ภัตตาคาร เพื่อรับประทานอาหาร
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปด้านหน้า สนามแอนฟีลด์ (ANFIELD) พร้อมนำท่านเลือกซื้อของที่ระลึกของ สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล หรือ หงส์แดง สมควรแก่เวลานำท่านชมความสวยงามของเมืองลิเวอร์พูล เริ่มตั้งแต่ บริเวณท่าเรืออัลเบิร์ต อดีตศูนย์กลางการค้าทางทะเลอันยิ่งใหญ่ของอังกฤษในอาณาบริเวณของท่าเรือที่เป็นกลุ่มอาคารอิฐสีแดง ซึ่งเคยเป็นโกดังเก็บสินค้าเต็มไปด้วย พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร และร้านขายของไปจนถึงโรงละครต่างๆ ถือได้ว่าเป็นศูนย์รวมทางวัฒนธรรมที่สำคัญจนปัจจุบันบริเวณท่าเรือแห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยัง เมืองเชสเตอร์ (CHESTER) ตั้งอยู่ในมณฑลเชชเชอร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ ใกล้ชายแดนเวลส์ เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ยุคโรมัน ได้รับสถานะเป็นเมืองในปี ค.ศ. 1541 โดยเมืองเชสเตอร์เป็นหนึ่งในเมืองที่มีการรักษากำแพงเมืองที่ดีที่สุดในอังกฤษ พร้อมนำท่านเดินทางสู่ MCARTHURGLEN OUTLET เป็นศูนย์การค้า เอาท์เล็ตขนาดใหญ่และเป็นแห่งแรกในสหราชอาณาจักร ภายในศูนย์การค้าแห่งนี้ มีร้านค้า มากกว่า 145 ร้าน, ร้านอาหาร, และคาเฟ่มากมาย ซึ่งที่นี่เป็นแหล่งรวมสินค้าแบรนด์ดังจากทั้งในและต่างประเทศ อิสระให้ท่านเลือกชมเลือกช้อปปิ้งสินค้าของฝากของที่ระลึกตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองแมนเชสเตอร์ (MANCHESTER) เป็นนครในเทศมณฑลเกรเทอร์แมนเชสเตอร์ ตอนเหนือของอังกฤษ ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตเมืองที่มีประชากรมากที่สุดอันดับสองของสหราชอาณาจักร และเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงจากการกีฬา ขนส่ง ดนตรี ธุรกิจขนาดใหญ่ ผลผลิตทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม วัฒนธรรม ศิลปะ สถาปัตยกรรม สื่อ และอุตสาหกรรม โดยมีสถานีรถไฟแมนเชสเตอร์-ลิเวอร์พูลโรด สถานีรถไฟขนส่งผู้โดยสารระหว่างเมืองแห่งแรกของโลก มีนักวิทยาศาสตร์ในเมืองที่แยกอะตอมได้เป็นครั้งแรก และพัฒนาเครื่องคอมพิวเตอร์แบบเก็บโปรแกรมเป็นเครื่องแรกของโลก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน AC HOTEL MANCHESTER SALFORD QUAYS หรือเทียบเท่า ****
เช้า
บประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเข้าชม สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด (OLD TRAFFORD STADIUM) บ้านของทีมฟุตบอลชื่อดังอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นสนามฟุตบอลที่มีอายุเก่าแก่มากกว่า 100 ปี และมีขนาดความกว้างใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอังกฤษ สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดเปิดใช้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1910 โดยสามารถรองรับผู้ชมได้มากกว่า 76,000 คน ที่ผ่านมาสนามแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นสถานที่แข่งขันฟุตบอลนัดสำคัญมาแล้วมากมาย อย่างเช่น FA CUP รอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลกปี 1966 และฟุตบอลยูโรปี 1996 รวมทั้งยังเคยใช้เป็นสนามแข่งรักบี้อีกด้วย จากนั้นอิสระให้ท่านเลือกซื้อของที่ระลึกของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ ปีศาจแดงตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านชมเมืองแห่งนี้ วิหารแมนเชสเตอร์ (MANCHESTER CATHEDRAL) เป็นวิหารคริสต์นิกายแองกลิคันและเป็นที่อยู่ของบิชอปแห่งแมนเชสเตอร์ ตั้งอยู่บนถนนวิคตอเรียในใจกลางเมืองแมนเชสเตอร์ สร้างด้วยหินทรายสีน้ำตาลเข้มในสไตล์โกธิค วิหารแห่งนี้เป็นหนึ่งในสิ่งอนุรักษ์ที่สำคัญของเมืองแมนเชสเตอร์ จากนั้นนำท่านชม ศาลาว่าการเมืองแมนเชสเตอร์ (MANCHESTER TOWN HALL) อาคารในสไตล์นีโอกอธิควิคตอเรียนที่โดดเด่นเป็นอย่างมากซึ่งด้านบนนั้นมีระฆังเกรทเอเบิล สร้างขึ้นมาเพื่อแข่งกับหอนาฬิกาบิ๊กเบนที่ลอนดอน และภายในของศาลาว่าการแห่งนี้จะมีทั้งห้องหับต่างๆ ที่มีการตกเเต่งในเเบบวิกตอเรียที่เเสนจะสวยงาม
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบว์เนส ออน วินเดอร์เมียร์ (BOWNESS-ON-WINDERMERE) เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมใจกลาง LAKE DISTRICT NATIONAL PARK ในจังหวัด CUMBRIA ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบ WINDERMERE ทะเลสาบธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือโบว์เนส (BOWNESS PIER) เพื่อนำท่าน ล่องเรือทะเลสาบวินเดอร์เมียร์ (WINDERMERE LAKE) ทะเลสาบธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษ ตลอดการล่องเรือทุกท่านจะได้สัมผัสบรรยากาศและชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลสาบแห่งนี้ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางต่อไปยัง กรุงเอดินเบอระ (EDINBURGH) เมืองหลวงที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สวยงามของสก็อตแลนด์ และยังเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมของสก็อตแลนด์มาตั้งแต่ ศตวรรษที่ 15 ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “ ATHENS OF THE NORTH ”
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน HOLIDAY INN EDINDURGH HOTEL หรือเทียบเท่า ****
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางเที่ยวชม กรุงเอดินเบอระ (EDINBURGH) นำท่านชม เซนต์ ไจล์ส คาทีดรอล (ST. GILES’ CATHEDRAL) เป็นโบสถ์ประจำเมืองเอดินบะระ เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองและศูนย์รวมจิตวิญญาณมาเกือบพันปี นำท่านชม มหาวิทยาลัยเอดินบะระ (EDINBURGH UNIVERSITY) มหาวิทยาลัยเก่าแก่และมีชื่อเสียงระดับโลก ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1583 ชม พระตำหนัก โฮลี่รู้ด (PALACE OF HOLYROOD HOUSE) ซึ่งเป็นที่ประทับของพระราชินีเวลาเสด็จเยือนสก็อตแลนด์ ฝั่งตรงข้ามเป็นรัฐสภาแห่งชาติสก็อตอันน่าภาคภูมิใจด้วยสถาปัตยกรรมร่วมสมัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ คาลตัน ฮิลล์ (CALTON HILL) เป็นเนินเขาและจุดชมวิวที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองเอดินบะระ ประเทศสก็อตแลนด์ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นชอบขึ้นมาชมวิวเมือง และแลนด์มาร์กสำคัญต่างๆ สมควรแก่เวลานำท่านเข้าชม ปราสาทเอดินเบอระ (EDINBURGH CASTEL) อันสง่างามด้วยทำเลที่ตั้งบนเนินเขาสูงมองเห็นเด่นเป็นสง่าจากทุกมุมเมือง ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์สก็อต และเคยถูกทำลายลงหลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็ได้รับการบูรณะและสร้างใหม่ให้กลับคืนสู่ความสง่างาม โดยเฉพาะครั้งสุดท้ายในศตวรรษที่ 19 โดยเซอร์วอลเตอร์ สก็อต นักปราชญ์ชาวสก็อต แบ่งเป็นส่วนต่างๆ อย่างน่าชม อาทิเช่น ส่วนของป้อมปราการและกำแพงปราสาทโบราณ มีปืนใหญ่เรียงราย รวมทั้งประเพณีการยิงปืนใหญ่ในเวลา 13.00 น. ของทุกวันตลอด 150 ปีที่ผ่านมา จากนั้นนำท่านเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกต่างๆ โดยเฉพาะปี่สก็อต เครื่องดนตรีประจำชาติสก็อตที่มีความเก่าแก่ที่สุดในโลก รวมทั้งผ้า WOOL, ผ้าแคชเมียร์, ผ้าตาร์ตัน, ผ้าลายสก๊อตพื้นเมืองอันเป็นเอกลักษณ์
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองกลาสโกว์ (GLASGOW) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสก็อตแลนด์ ตั้งอยู่บนแม่น้ำไคลด์ ชาวกลาสโกว์รู้จักกันในชื่อกลาสวีเจียนส์ (GLASWEGIANS) นอกจากนี้กลาสวีเจียนส์ยังเป็นชื่อสำเนียงท้องถิ่นอีกด้วย ซึ่งนิยมเรียกกันว่า “GLASGOW PATTER” กลาสโกว์นั้นถือเป็นเมืองใหญ่ในสหราชอาณาจักรที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุด ซึ่งมีการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว เนื่องจากเป็นเมืองท่าใหญ่ของมหาสมุทรแอตแลนติก และปัจจุบันยังเป็นศูนย์รวมการค้าของประเทศสก็อตแลนด์อีกด้วย จากนั้นนำท่านเที่ยวชมเมืองกลาสโกว์ ประกอบด้วย หอนาฬิกาโบราณ (TOLBOOTH STEEPLE) เป็นหอนาฬิกาโบราณที่ตั้งอยู่ในเมืองกลาสโกว์ ถือเป็นหนึ่งในอาคารประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่และโดดเด่นที่สุดของเมือง โดยตั้งอยู่ที่จุดตัดของถนนสำคัญหลายสายในย่านใจกลางเมือง พร้อมนำท่านชม สะพานข้ามแม่น้ำไคลด์ (THE CLYDE ARC) สะพานแห่งนี้มีดีไซน์ทันสมัยและโดดเด่นด้วยโครงสร้างโค้งรูป ” วงจันทร์ ” มีความยาวประมาณ 96 เมตร จากนั้นนำท่านชม มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ (UNIVERSITY OF GLASGOW) หนึ่งในมหาวิทยาลัยเก่าแก่อันดับที่ 4 ของโลกที่ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในสหราชอาณาจักร ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1451 พร้อมนำท่านแวะถ่ายภาพกับ หอศิลป์เคลวินโกรฟ (KELVINGROVE GALLERY) แลนด์มาร์กสำคัญด้านศิลปะ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมของเมืองแห่งนี้ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินกลาสโกว์ เพื่อนำท่านเตรียมเดินทางกลับ
21.35 น.
คณะทัวร์อำลา เมืองกลาสโกว์ เดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบินเอมิเรตส์แอร์ไลน์ (EK) เที่ยวบิน EK026/EK372 (21.35-07.55/09.00-18.55) แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ä บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน
18.55 น.
คณะเดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ … พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม