
06.00 น.
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกในประเทศ ชั้น 4 บริเวณเคาน์เตอร์ สายการบินศรีลังกันแอร์ไลน์ เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระ และบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง
09.00 น.
ออกเดินทางสู่ เมืองโคลัมโบ โดยเที่ยวบินที่ UL403 (ä บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน)
11.00 น.
คณะเดินทางถึง สนามบินนานาชาติบันดานารานัยเก ประเทศศรีลังกา จากนั้นนำท่านผ่านพิธีการทางสนามบิน และรับกระเป๋าสัมภาระ ไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถผู้ชำนาญเส้นทาง นำท่านขึ้นรถปรับอากาศเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองโคลอมโบ
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านสักการะสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา วัดกัลยาณี ถือเป็นวัดประจำเมืองที่ชาวโคลัมโบให้ความเคารพอย่างสูงสุดวัดเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อ 1,900 กว่าปีที่แล้ว เป็นวัดใหญ่นิกายสยามวงศ์ภายในวิหาร มีภาพเขียน ภาพปั้น ภาพแกะสลัก เป็นงานยอดศิลปกรรม มีต้นโพธิ์ใหญ่ 1 ใน 32 ต้น ที่แยกหน่อมาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่เมืองอนุราธปุระ เมื่อปี พ.ศ.1967 มีภิกษุชาวโยนก (เชียงใหม่) 25 รูปพระภิกษุเขมร 8 รูปได้อุปสมบทที่อุทกเขปสีมา (อุโบสถน้ำ) กลางแม่น้ำกัลยาณี ได้เวลาอันสมควร เดินทางสู่เมืองนิกัมโบ ซึ่งอยู่ ห่างจากสนามบิน ประมาณ 16 กิโลเมตร นิกัมโบเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงบันลือโลก อยู่ริมฝั่งมหาสมุทรอินเดีย มีฝั่งทะเลที่สวยงามตามธรรมชาติ ชายหาดยาว ขาวสะอาดบริสุทธิ์ เป็นภาพที่สวยงามยิ่งนัก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน PEGASUS REEF HOTEL หรือเทียบเท่า ****
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอนุราธปุระ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของกรุงโคลอมโบประมาณ 250 กิโลเมตร เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงซึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงเก่าอันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศ โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ในเขตจังหวัดกลางตอนเหนือ 1 ใน 8 จังหวัด ของประเทศศรีลังกา ปัจจุบันเมืองอนุราธปุระได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 1982 นอกจากนี้แล้ว อนุราธปุระ ยังเป็นเมืองหลวงของทางการเมืองและศาสนาที่รุ่งเรืองมานานกว่า 1,300 ปี ของชาวซีลอน สถานที่สำคัญทางศานา และอนุสรณ์สถาน จากนั้นนำท่านสักการะ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่พระนางสังฆมิตตา พระมเหสีของพระโอรสในพระเจ้าอโศกมหาราช เป็นผู้นำหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นนี้มาจากพุทธคยา อินเดีย มาปลูกไว้เมื่อ พ.ศ. 235 ซึ่งนับถืงวันนี้ก็มีอายุถึงกว่า 2300 ปีแล้ว และนับเป็นต้นไม้แห่งประวัติศาสตร์ ถือเป็นต้นโพธิ์ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลก เป็นต้นไม้ที่อายุยืนยาวนานกว่าต้นศรีมหาโพธิ์ ณ เมืองพุทธคยา ทางเมืองอนุราชปุระจึงพยายามรักษาด้วยการทำไม้ค้ำยันกิ่งก้านสาขาของต้นศรีมหาโพธิ์ไว้เป็นจำนวนมาก มีกำแพงล้อม 4 ชั้น ในพื้นที่ 4 ไร่ และแยกหน่อมาปลูกไว้รอบๆ อีกกว่า 45 ต้น พุทธศาสนิกชนที่มีความเลื่มใสจะเก็บใบของพระศรีมหาโพธิ์ซึ่งหาได้ยากมาก เพือนำมาบูชาเป็นสิริมงคลแกตนเอง
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านเข้าสักการะ วัดอิสุระมุณิยะ วัดโบราณซึ่งถูกสร้างขึ้นเป็นวัดแรกแห่งดินแดนสิงหล ณ เกาะศรีลังกา สมัยราชวงศ์ปัลละในช่วงพ.ศ.1200 สร้างติดกับภูเขาขนาดเล็กหันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีภาพสลักบนหน้าผา เป็นภาพการเสด็จลงมาจากสวรรค์ของพระแม่คงคา ณ วาลีปุรัม ในอินเดีย นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ของทางวัดซึ่งจัดแสดงโบราณวัตถุที่ค้นพบในเมืองอนุราธปุระ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ปฏิมากรรมคู่รัก ได้รับการยกย่องว่ามีความอ่อนหวานน่ารัก ที่สุดชิ้นหนึ่งของศรีลังกา ได้เวลาสมควรนำท่านเข้าสักการะ เจดีย์รุวันเวลิสายะ หรือ มหาถูปา หรือ สุวรรณมาลิกเจดีย์ เป็นเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองอนุราชปุระ มีขนาดกว้าง 100 เมตร สูง 100 เมตร เป็นเจดีย์ทรงกลมฟองน้ำ มีกำแพงประดับด้วยช้างหินล้อมรอบรวม 362 เชื่อก มีเนื้อที่ 12.5 ไร่ ตามตำนานกล่าวว่า ในสมัยพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะมีพระประสงค์จะสร้างพุทธสถานอีกแห่ง หนึ่งตรงบริเวณที่เป็นเจดีย์รุวันเวลิในเวลาต่อมา และพระมหินทเถระได้พยากรณ์การก่อสร้างไว้ให้ แต่ยังมิทันได้สร้าง พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน เจดีย์รุวันเวลิสร้างสำเร็จโดยพระเจ้าทุฎฐาคามีนีอภัย โดยพระเจดีย์รุวันเวลิสร้างเสร็จในวันที่พระองค์เสด็จสวรรคต ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองดัมบุลล่า จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ภัตตาคาร
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน KASSAPA LION’S ROCK HOTEL หรือเทียบเท่า ****
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองสิกิริยา หรือ หินราชสีห์ เมืองตอนกลางของประเทศศรีลังกา ประกอบด้วยหินปลักภูเขาไฟ ป้อมปราการและปราสาทโบราณ รายล้อมด้วยสวนหย่อมและระบบชลประทาน ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของศรีลังกา โดยเฉพาะจิตรกรรมฝาผนังโบราณ ได้รับการพิจารณาเป็นมรดกโลกหนึ่งในแปดแห่งของประเทศ นำท่านชม ภูเขาสิงห์โต หรือ แท่นศิลาราชสีห์ ศาสนสถานลอยฟ้าแห่งศรีลังกาสร้างโดยกษัตริย์กัสยปาสมัยศตวรรษที่ 5 ซึ่งอาจจะนับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดของศรีลังกา เนื่องจากเคยมีสิงห์โตตัวใหญ่ ยืนอยู่บริเวณปากทางเข้า ภายในคูรอบป้อมปราการ 3 ชั้น มีแท่นศิลายักษ์สูง 500 ฟุต เป็นหินผาที่เกิดจากภูเขาไฟในอดีต แต่ที่ไม่ได้เรียกเป็นภูเขาเพราะว่าลักษณะเหมือนก้อนหินยักษ์วางอยู่บนที่ราบ สามารถมองเห็นได้ไกลจากรอบๆ ด้าน มีความสูงจากพื้น 370 เมตร และด้านบนมีลักษณะแบนดูรวมๆ จึงเหมือนแท่นหินขนาดยักษ์ บนยอดศิลายังคงหลงเหลือ ฐานรากของพระราชวังอันยิ่งใหญ่ในอดีต สวนดอกไม้พร้อมสระว่ายน้ำ มีถ้ำที่ผนังถ้ำที่ยาว 140 เมตร สูง 40 เมตรเต็มไปด้วยภาพวาดเก่าแก่ที่สุด ที่ยังอยู่ในสภาพดี เพราะเป็นภาพเขียนแบบfrescos หรือปูนเ ปียก ที่วาดลงบนปูนที่ฉาบผนังถ้ำให้เรียบก่อนวาดภาพรูปวาดสีของชาวสิงหลนี้ เป็นภาพนางอัปสรขนาดเท่าตัวคนซึ่งมีสีสันสดใสละเอียดอ่อน
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองดัมบุลล่า นำท่านชมสถานที่สำคัญของเมืองดัมบุลลาที่มีความสำคัญในศาสนา วัดถ้ำดัมบุลล่า กษัตริย์วาลากัมบาทรงเ คยพำนักในถ้ำที่ดัมบุลลา ช่วงที่พระองค์เสด็จพลัดถิ่นจากเมืองอนุราธปุระ ต่อมาเมื่อพระองค์เสด็จกลับขึ้นครองราชย์อีกครั้ง พระองค์ได้ทรงสร้างวิหารศิลาที่ทรงคุณค่าที่สุดในศรีลังกา ชมถ้ำหิน ซึ่งแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 ถ้ำ ภายในถ้ำแรก มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ยาว 47 ฟุต แกะสลักจากแท่งหิน สำหรับในถ้ำที่ 2 มีพระพุทธรูปขนาดเท่าองค์จริงประดิษฐานอยู่ถึง 150 องค์ นอกจากนี้ถ้ำอื่นๆ ยังมีภาพวาดสีน้ำบนเพดานและรูปปั้นของพระพุทธรูป และพระพุทธเจ้าอยู่รอบๆ ซึ่งภาพสีน้ำบนเพดานมีอายุอยู่ในศตวรรษที่ 15-18 ถือเป็นสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์พุทธศาสนาของชาวสิงหล จากนั้นให้ท่านเก็บภาพความประทับใจพร้อมไหว้พระขอพร
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน KASSAPA LION ROCK HOTEL หรือเทียบเท่า ****
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นเดินทางเข้าสู่ เมืองแคนดี้ ตั้งอยู่บนยอดเขา สูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 500 เมตร เป็นเมืองมรดกโลกของประเทศศรีลังกา เมืองนี้เคยเป็นที่มั่นสุดท้ายของกษัตริย์สิงหล ก่อนการยกดินแดนให้กับจักรวรรดิอังกฤษใน ค.ศ. 1815หลังจากที่ได้ต่อต้านชาวโปรตุเกส และชาวดัตช์มานานถึงสามศตวรรษ เมืองแคนดี้ เดิมเรียกว่า ‘ศิริวัฒนานคร’ หรือ ‘สิงหขันธนคร’ ชาวเมืองสิงหลเรียก ‘ขันธะ’ หมายถึงกองหินหรือภูเขา เมื่อต่างชาติเข้าครองเมืองขันธะ
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (ระหว่างทางท่ามกลางวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม)
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดพระอุบาลี หรือ วัดบุปผาราม ตั้งอยู่ริมทะเลสาบแคนดี้ เป็นวัดที่พระอุบาลีและคณะสมณฑูตจากกรุงศรีอยุธยามาทำการบรรพชาให้ภิกษุชาวศรีลังกา ในสมัยพระเจ้าบรมโกศ นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ “นิกายสยามวงศ์” พระอุบาลี จึงถือว่าเป็นผู้สถาปนาอุบาลีวงศ์ในศรีลังกา เป็นพระธรรมทูตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ได้เวลาสมควรนำท่านไปยัง วัดพระเขี้ยวแก้ว หรือ วัดดาลาดา มาลิกาวา กราบนมัสการ พระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว (พระทนต์ของพระสัมมา สัมพุทธเจ้า) พระทันตธาตุองค์นี้เป็นพระทันตธาตุเบื้องซ้ายบนของพระพุทธอ งค์ โดยพระเขมเถระได้อัญเชิญจากจิตกาธาน เมืองกุสินาราไปถวายพระเจ้าพรหมทัตแห่งนครทันตปุระ แคว้นกลิงค์ จากนั้นจึงตกทอดมายังเกาะลังกา มีประวัติที่แปลกพิสดารกว่า 2,000 ปี เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ได้เวลาสมควรนำท่านสู่ยอดเขา UPPER LAKE ให้ท่านได้ชมตัวเมืองแคนดี้ ซึ่งมอ งเห็นทะเลสาบ และตัวเมืองแคนดี้อันสวยงามอยู่เบื้องล่าง เช่น พระราชวังเก่า, มหาวิทยาลัยเมืองแคนดี้ อันเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่และมีชื่อเสียง ที่สุดใน ศรีลังกาตั้งอยู่นอกตัวเมืองแคนดี้ มีสถานที่กว้างขวางตั้งอยู่ในบริเวณเนินเขาเตี้ย ๆ มีดอกไม้และไม้ยืนต้นเป็นธรรมชาติที่สวยงาม มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีการเรียน ภาษาบาลีในระดับปริญญาเอกด้วย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน THE SWISS RESIDENCE HOTEL หรือเทียบเท่า ****
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองโคลัมโบ ผ่านเส้นทางลัดเลาะภูเขาและชนบทอันสวยงาม โดยเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นเมืองหลวงทางการค้าของประเทศศรีลังกามาตั้งแต่ในอดีต ท่านสักการะสถานที่สำคัญของไทย วัดทีปทุตตมาราม เป็นวัดไทยในกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เป็นวัดที่เก่าแก่ส ร้างเมื่อ พ.ศ. 2318 วัดนี้มีความสำคัญต่อชุมชนชาวพุทธในศรีลังกาซึ่งได้ และได้พัฒนาวัดในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2416 จนกลายเป็นวัดขนาดใหญ่ที่ทันสมัยที่สุดในประเทศในยุคนั้น โดยวัดเป็นศูนย์กลางในการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในศรีลังกา และโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ก็ได้เกิดขึ้นในยุคนี้ วัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ลึกซึ้งกับประเทศไทยเนื่องจากพระชินวรวงศ์ และได้รับการสถาปนาเป็นสังฆนายกแห่งนครโคลัมโบ โดนวัดทีปทุตตมารามมีสิ่งก่อสร้างที่สำคัญ คือ วิหารพระพุทธไสยาสน์ หอประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และรัตนเจดีย์ และยอดฉัตรรัตนเจดีย์ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงเป็นสิ่งก่อสร้างที่สำคัญสำหรับประวัติศาสตร์ระหว่างสยามกับศรีลังกา
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านสู่ วัดสีมามาลากา หรือรู้จักกันในนามวัดกลางน้ำ ตั้งอยู่กลางทะเลสาป ประกอบด้วยโบสถ์ 3 หลัง หลังแรก ประดิษฐานต้นโพธิ์ หลังที่สอง ประดิษฐานพระพุทธรูป หลังที่สาม เป็นที่เก็บคัมภีร์พระไตรปิฎกของประเทศศรีลังกา ได้เวลาสมควรท่านสักการะสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา วัดคงคาราม ซึ่งเป็นวัดของนิกายสยามวงศ์ เป็นสถานที่ตั้งโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์แห่งแรกของประเทศศรีลังกา มีพระประทานองค์ใหญ่ปางมารวิชัย ศิลปะแบบลังกา สวยงามมาก ด้านหลังของวัด จะมีพระพุทธรูปโลหะขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นของคนไทยที่ได้นำมาถวายเป็นพุทธบุชาให้กับวัดแห่งนี้ นำท่านชม สีมมามาลัก ไม่ไกลจากวัดจะเป็น โถงรวมของสงฆ์ หรือที่ชาวศรีลังกาเรียกว่า สีมมามาลัก เป็นอาคารตั้งอยู่บนทะเลสาบ มีพระพุทธรูปเรียงสวยงามตั้งอยู่ริมทะเลสาบ จากนั้นให้ท่านได้แวะช้อปปิ้งสินค้าราคาย่อมเยาได้ที่ เปตตา บาร์ซา เป็นย่านที่เป็นศูนย์กลางการค้าของเมือง พื้นที่สำคัญคือตลาดเปตตา (Pettah Market) ซึ่งมีร้านค้าต่าง ๆ มากมายทั้งค้าปลีกค้าส่ง หรือช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมได้ที่ ห้างโอเดลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ซึ่งเปรียบเหมือนส่วนหนึ่งของมืองโคลอมโบ มีการเปรียบเทียบว่าหากไม่ได้ไปช้อปที่ ODEL เหมือนเดินทางไม่ถึงโคลอมโบ ที่นี่มีสินค้าทุกอย่าง ทั้งขายปลีกและส่ง ร้านอาหารญี่ปุ่น รวมทั้งอาหารที่นำเข้าจากต่างประทศ
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำคณะเดินทางสู่สนามบิน
01.15 น.
คณะทัวร์อำลา เมืองโคลัมโบ เดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินสายการบินศรีลังกันแอร์ไลน์ เที่ยวบิน UL402
06.20 น.
คณะเดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ…พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
