06.00 น.
คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โด ยสารขาออก สายการบินแอร์ เอเชีย (FD) เจ้าหน้าที่ วาริต้า ทราเวล คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับท่าน
09.15น.
คณะออกเดินทางสู่เมืองคยาโดยสายการบินแอร์ เอเชีย เที่ยวบินที่ FD122
10.50 น.
คณะเดินทางถึงท่าอากาศยานเมืองพุทธคยา (เวลาช้ากว่าไทย 1.30 ชั่วโมง) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่เข้าสู่ตัวเมืองพุทธคยา ซึ่งทอดยาวไปตามชายฝั่งของแม่น้ำเนรัญชรา เมืองแห่งนี้เป็นเมืองสำคัญทางพระพุทธศาสนา
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
บ่าย
จากนั้นนำคณะเข้าสู่สถานที่สำคัญหนึ่งในสี่ของการเดินทางมาเยือนดินแดนแห่งพุทธภูมิแห่งนี้ คือ พระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ภายในท่านจะได้ชม พระแท่นวัชรอาสน์ เป็นพระแท่นจำลองขึ้นทับตรงบริเวณพระแท่นเดิมเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ ณ จุดนี้ ปัจจุบันสร้างด้วยวัสดุหินทรายเป็นรูปหัวเพชรสี่เหลี่ยม กว้าง 4.10 นิ้ว 7.6 นิ้ว หนา 5 นิ้วครึ่ง ประดิษฐานอยู่ภายใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ โดยสร้างกำแพงแก้วทำด้วยทองคำแท้ ประดิษฐานรอบต้น จากนั้นนำท่านสักการะ พระมหาเจดีย์พุทธคยา อนุสรณ์สถานแห่งการตรัสรู้ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีลักษณะเป็นเจดีย์ 4 เหลี่ยม สูง 170 ฟุต วัดโดยรอบฐานได้ 121.29 เมตร
ภายในประดิษฐาน พระพุทธเมตตา พระพุทธรูปปางมารวิชัยแบบศิลปะปาละ และนำท่านสักการะสัตตมหาสถาน ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับเสวยวิมุตติสุขหลังตรัสรู้ 7 แห่งๆละ 7 วัน คือ โพธิบัลลังก์ อนิมิสเจดีย์ รัตนจงกรมเจดีย์ รัตนฆรเจดีย์ อชปาลนิโครธ (ต้นไทร) ต้นมุจลินท์ (ต้นจิก) และต้นราชายตนะ (ต้นเกด)
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก ได้เวลาสมควรนำคณะเดินทางสู่ วัดไทยพุทธคยา ให้คณะได้ประกอบพิธีทางพุทธศาสนา สวดมนต์ข้ามปี ก้าวข้ามปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยจิตใจที่ผ่องใส เสริมสิ่งที่ดีงามให้เกิดขึ้นและขจัดสิ่งไม่ดีให้ผ่านพ้นไป เริ่มต้นชีวิตใหม่พร้อมกับปีใหม่ที่ก้าวไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง และยังเป็นการรักษาประเพณีวัฒนธรรมอันดีงานของพระพุทธศาสนา
พัก MAYA HERITAGE HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ
06.00 น.
ได้เวลาสมควรนำคณะเดินทางสู่ วัดไทยพุทธคยา ให้คณะได้ประกอบพิธีทางพุทธศาสนา ตักบาตรอาหารแห้ง เติมบุญกุศลในวันขึ้นปีใหม่ เสริมความเป็นศิริมงคล ต่ออายุให้ตนเองและครอบครัวมีอายุยืนยาวมั่นคงในการเงินตลอดปี รวมทั้งเป็นการอุทิศส่วนกุศลแก่คนในครอบครัวผู้ล่วงลับ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
จากนั้นนำท่านชมสถูปนางสุชาดา ผู้ซึ่งถวายข้าว มธุปายาสแก่เจ้าชายสิทธัตถะก่อนการตรัสรู้ นำท่านสู่ สถานที่ถวายข้าวมธุปายาส นางสุชาดาปรุงข้าวมธุปายาสขึ้นเป็นอาหารถวายพร้อมทองคำแด่พระพุทธเจ้า เมื่อเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ประทับใต้ต้นนิโครธ (ต้นไทร) ก็เข้าใจพระองค์เป็นเทพยดาเพราะมีลักษณะงาม นางจึงน้อมข้าวมธุปายาสนั้นเข้าไปถวาย ครั้นพระโพธิสัตว์ได้บอกความจริงแก่นางแล้วนางก็ยิ่งมีใจศรัทธา จึงได้ถวายข้าวนั้นทั้งถาด พระโพธิสัตว์ได้นำข้าวมธุปายาสมาแบ่งเป็น ๔๙ ก้อน แล้วฉันจนหมด และชมสถานที่ลอยถาดทองอธิฐานที่ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ซึ่งเป็นแม่น้ำสำคัญในพุทธประวัติ ชาวบ้านแถบนั้นเรียกว่า “ลิลาจัน” มาจากคำสันสกฤตว่า “ไนยรัญจนะ” แปลว่า แม่น้ำที่มีสีใสสะอาด โดยแม่น้ำสายนี้มีความกว้างราว 1 กิโลเมตร
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เขาดงคสิริ ในสมัยพุทธกาลนั้นเป็นสถานที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบำเพ็ญทุกรกริยา อยู่ภายในถ้ำบนยอดเขา ได้ประดิษฐานองค์พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกริยาประดิษฐาน เพื่อเป็นสิ่งที่แสดงถึงสถานที่ที่สันนิษฐานว่าพระพุทธเจ้าได้บำเพ็ญทุกรกริยา เป็นระยะเวลา 6 ปี ภายหลังพระองค์ทรงทราบว่าการบำเพ็ญเพียรดังกล่าวไม่ใช่หนทางแห่งการตรัสรู้ จึงเกิดพุทธปรัชญา “ทางสายกลาง” หนทางแห่งการตรัสรู้ในที่สุด ในปัจุจุบันสถานที่บำเพ็ญทุกรกริยาแห่งนี้ รู้จักกันในชื่อ ถ้ำมหากาล ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองราชคฤห์ หรือเบญจคีรีนคร แปลว่า เมืองที่มีเขาทั้ง 5 อันได้แก่ เขาคิชกูฏ เขาปัณฑวะ เขาเวภาระ เขาอิสิคิลิ และเขาเวปุลละระหว่างเดินทางนำท่านแวะชม จากนั้นนำท่านชม รอยเกวียนโบราณ ที่อยู่บริเวณหลังประตูเมืองราชคฤห์ เป็นรอยเกวียนที่ลงลึกเข้าไปในหิน ซึ่งเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเป็นเส้นทางที่ใช้เกวียนมาหลายชั่วอายุคน และสอดคล้องกับพงศาวดารในอดีตเกี่ยวกับ เมืองราชคฤห์ที่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่เจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก จากนั้นนำท่านสู่ ถ้ำโสนภัณฑาร์ หรือถ้ำคลังมหาสมบัติของพระเจ้าพิมพิสารซึ่งเป็นหลักฐานที่แสดงความมั่งคั่ง ร่ำรวยของกรุงราชคฤห์ที่เหนือกว่าเมืองอื่น ๆในสมัยนั้น มหาสมบัติเหล่านี้อยู่ในถ้ำหินที่เกิดจากการขุดเจาะภูเขาเวภารบรรพต ซึ่งมีอยู่ 2 ถ้ำอยู่ติดกัน เกิดจากหินก้อนเดียวกัน สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม หลังอาหารอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
พัก INDO HOKKE HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาคิชกูฏ สถานที่ประทับหลายพรรษาของพระพุทธเจ้า รวมถึงพรรษาสุดท้ายก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน ซึ่งปรากฏหลักฐานหลายจุดที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธประวัติ อันประกอบไปด้วย ถ้ำพระโมคคัลลานะ ที่พำนักและบำเพ็ญเพียรของอัครสาวกเบื้องซ้าย ,จุดที่พระเทวทัตกลิ้งหินหวังปลงพระชนพระพุทธเจ้า ,ถ้ำสุกรขาตา (ถ้ำพระสารีบุตร) ที่พำนักและบำเพ็ญเพียรของอัครสาวกเบื้องขวา ผู้เป็นเอตทัคคะ ที่มีปัญญาเป็นเลิศ ,และจุดที่ถือได้ว่าสำคัญที่สุดคือ พระคันธกุฎี กุฏิที่พำนักของพระพุทธเจ้า ได้เวลาอันสมควรนำท่านชม ชีวกอัมพวันวิหาร หรือสวนมะม่วงของหมอชีวกโกมารภัจจ์ ซึ่งถวายเป็นสังฆาวาส และเป็นโรงพยาบาลสงฆ์แห่งแรกของโลกที่ดูแลพระภิกษุสงฆ์อาพาธ รวมไปถึงพระพุทธองค์ด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อครั้งเหตุการณ์พระเทวทัตผลักก้อนหินหลัง
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
บ่าย
ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่เมืองนาลันทา ชมความยิ่งใหญ่ มหาวิทยาลัยนาลันทา มหาวิทยาลัยพุทธศาสนาที่เคยรุ่งเรืองโด่งดังมากที่สุดในโลก มีพระนักศึกษาจํานวน หมื่น เมื่อราว พ.ศ.1700 ได้ถูกชาวมุสลิมรุกรานสังหารพระ และเผาทําลายเสียสิ้นปัจจุบันเหลือไว้แต่ซากปรักหักพัง ปรากฏเป็นรูปฐานและผนังของอาคารยาวเหยียดในบริเวณอันกว้างขวาง และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นบ้านเกิดของ พระโมคคัลลานา พระสารีบุตร ที่นี่ยังมีพระสถูปเจดีย์ที่บรรจุอัฐิธาตุของพระสารีบุตรปรากฏอยู่ หลังจากนั้นนําท่านกราบนมัสการ หลวงพ่อดําศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระเกตุทรงบัวตูม ปางนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ชี้แม่พระธรณีเป็นพยาน สร้างในสมัยพระเจ้าเทวปาล เมื่อประมาณ พ.ศ. 1353-1393 ประดิษฐานอยู่ทางด้านทิศเหนือของซากปรักหักพังของมหาวิทยาลัยนาลันทา ถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปเพียงองค์เดียวที่รอดพ้นจากการทำลายของกองทัพมุสลิม เป็นที่เคารพศักการะของชาวพุทธเป็นอย่างมาก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม หลังอาหารอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
พัก INDO HOKKE HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
จากนั้นนำท่านชม วัดเวฬุวันมหาวิหาร หรือป่าไผ่ สถานที่กำเนิดวันสำคัญทางศาสนา “วันมาฆบูชา” ซึ่งเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ต่อหน้าพระสงฆ์ที่พระองค์ทรงบวชให้ทั้งหมด และวัดเวฬุวันมหาวิหารยังเป็นวัดแห่งแรกของพระพุทธศาสนา เป็นสถานที่ที่พระเจ้าพิมพิสารถวายให้กับองค์พระศาสดา จากนั้นนำชม ตโปทาราม หรือบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ สถานที่อาบน้ำแร่ร้อนธรรมชาติเพื่อเป็นการชำระล้างบาปซึ่งมีการแบ่งเป็นห้องอาบน้ำตามความเชื่อของชาวฮินดู โดยแต่ละวรรณะจะแยกชั้นลดหลั่นกันลงมาตามวรรณะทั้งสี่ ในแต่ละวันจะมีชาวฮินดูเดินทางมาอาบน้ำเพื่อทำการชำระล้างบาปกันเป็นจำนวนมาก
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
บ่าย
จากนั้นนำคณะออกเดินทางสู่กลับสู่เมืองพุทธคยา ผ่านชมเส้นทางอันสวยงามสองข้างทางพร้อมรับฟังเรื่องราวต่าง ๆ นำคณะได้เข้าสักการะ วัดไทยพุทธคยา เป็นวัดไทยแห่งแรกในประเทศอินเดีย เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 มีเนื้อที่ราว 12 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณพุทธคยา อยู่ห่างจากองค์เจดีย์พุทธคยาประมาณ 500 เมตร สร้างขึ้นที่พักสำหรับรองรับผู้มาจาริกแสวงบุญทุกแห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พุทธศาสนิกชนจากทุกหนแห่งที่มีศรัทธาเดินทางมาสักการะพุทธสถาน ได้เวลาสมควรให้ท่าน ช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าท้องถิ่น ตามอัธยาศัยไม่ว่าจะเป็นผ้าพื้นเมือง ผ้ากาสี ตลอดแนวเส้นทาง และสินค้าขึ้นชื่อผลิตภัณฑ์ครีมหิมาลายา แบรนด์จากอินเดีย ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติสูตรอ่อนโยนมอบการบำรุงจากส่วนผสมธรรมชาตินานาชนิด ให้ท่านได้นำเป็นของฝากคนที่บ้าน โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก หลังอาหารอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย หรือเลือกเดินทางไปวิปัสสนากรรมฐานใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์สถานที่ตรัสรู้ (ปิด 21.00 น.) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวก
พัก MAYA HERITAGE HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
11.30 น.
คณะอำลาประเทศอินเดีย ออกเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ด้วยเที่ยวบิน FD123
15.55 น.
เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง ด้วยความสวัสดี…พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม